จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกโรงเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะยาว หากสภาคองเกรสไม่เร่งผ่านนโยบายกู้วิกฤตการเงินมูลค่ากว่า 7 แสนล้านดอลลาร์
"เรากำลังเผชิญวิกฤตการเงินครั้งรุนแรง" บุชกล่าว "เศรษฐกิจทุกส่วนของประเทศกำลังตกอยู่ในอันตราย"
บุชกล่าวว่าหากรัฐบาลไม่ให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินที่กำลังประสบปัญหา หลายธุรกิจอาจต้องล่มสลายและจะทำให้มีผู้ตกงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเขาพร้อมรับข้อเสนอจากทั้งพรรครีพับลีกันและเดโมแครทเพื่อให้นโยบายดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส
บุชออกแถลงการณ์ดังกล่าวหลังจากที่เขาเชิญจอห์น แมคเคน และ บารัค โอบามา เพื่อเข้าร่วมหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาในเศรษฐกิจในคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) นอกจากนี้ บุชจะประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส ณ เวลา 02.55 น. ตามเวลาไทยคืนนี้ เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งกับสภาคองเกรสในแผนฟื้นฟูดังกล่าว
นักวิเคราะห์คาดว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่าสหรัฐใกล้จะบรรลุข้อตกลงในมาตรการฟื้นฟูภาคการเงิน ซึ่งจะช่วยคลายวิตกในตลาดสหรัฐซึ่งเผชิญกับกระแสความวิตกกังวลที่ว่าการเจรจาอาจยืดเยื้อออกไป
"บุชกำลังพยายามโน้มน้าวให้ประชาชนเห็นด้วยกับแผนดังกล่าวเพื่อให้สมาชิกสภาคองเกรสเห็นดีเห็นงามด้วยและยอมอนุมัติ" พีท เดวิส ประธานบริษัท เดวิส แคปิตอล อินเวสเมนท์ บริษัทที่ปรึกษาเอกชนในวอชิงตัน กล่าว
อย่างไรก็ตาม โพลล์สำรวจความคิดเห็นของบลูมเบิร์ก/ลอสแอลเจลิสเผยว่า ชาวอเมริกันเกินครึ่งเห็นว่าไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลที่จะเอาเงินภาษีของประชาชนไปซื้อสถาบันการเงินเอกชนที่ประสบปัญหา แม้ว่าการล่มสลายของบริษัทเหล่านั้นจะทำให้เศรษฐกิจได้รับความเสียหายก็ตาม สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--