"ลี กา-ชิง"โดดอุ้มแบงค์ ออฟ อีสต์เอเชีย ทุ่มซื้อหุ้นหลังเกิดเหตุลูกค้าแห่ถอนเงิน

          ลี กา-ชิง ประธานบริษัทเฉินกง โฮลดิ้ง ร่วมมือกับรัฐบาลฮ่องกง เข้าแก้สถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นกับแบงค์ ออฟ อีสต์ เอเชีย หลังจากมีผู้ไม่ประสงค์ดีปล่อยข่าวลือโจมตีเสถียรภาพด้านการเงินของธนาคาร จนเป็นเหตุให้เกิดการแห่ถอนเงินออกจากธนาคารครั้งแรกในรอบ 10 ปีของฮ่องกง โดยนายลีได้ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นในแบงค์ ออฟ อีสต์ เอเชีย เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมา
          เมื่อวานนี้ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกขึ้นที่แบงค์ ออฟ อีสต์ เอเชีย เมื่อลูกค้าจำนวนมากของธนาคารได้แห่ถอนเงินอย่างล้มหลามเมื่อวานนี้ หลังจากมีข่าวคนปล่อยข่าวลือผ่านข้อความทางโทรศัพท์ว่า แบงค์ ออฟ อีสต์ เอเชีย ประสบปัญหาด้านการเงิน และในวันนี้ลูกค้ายังคงเดินทางมาถอนเงินออกจากธนาคารจนกระทั่งเวลา 11.30 น.ตามเวลาฮ่องกง การถอนเงินจึงซาลง
          หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว  เดวิด ลี ประธานธนาคาร แบงค์ ออฟ อีสต์ เอเชีย รุดเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกันทันที และกล่าวกับที่ผู้สื่อข่าวที่สนามบินฮ่องกงว่า "ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย ธนาคารของเราไม่มีปัญหา และคุณลี คา-ชิงยืนยันกับผมว่า ท่านได้เข้าซื้อหุ้นในธนาคารของเราเพิ่มขึ้น" ซึ่งการออกมาสยบข่าวลือในวันนี้ ช่วยหนุนราคาหุ้นแบงค์ ออฟ อีสต์ เอเชีย พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากดิ่งลงไปกว่า 6.9% เมื่อวานนี้ 
          ด้านนายจอห์น ซัง รมว.คลังฮ่องกงยืนยันว่า ข่าวลือที่เกิดขึ้นกับแบงค์ ออฟ อีสต์ เอเชีย ไม่เป็นความจริง เพราะธนาคารแห่งี้มีทุนสำรองมากพอที่จะให้บริการแก่ลูกค้า ขณะที่นายโยเซฟ ยัม ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกง เรียกร้องให้ผู้ฝากเงินอยู่ในความสงบ พร้อมกับอัดฉีดเม็ดเงิน 500 ล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการธนาคารในวันนี้ และยืนยันว่า "ระบบการธนาคารของฮ่องกงมีเสถียรภาพแข็งแกร่ง เรามีทุนสำรองที่สูงมาก และคุณภาพสินทรัพย์ก็อยู่ในขั้นดีมาก"
          อย่างไรก็ตาม คริสโตเฟอร์ เอสสัน นักวิเคราะห์จาก Credit Suisse Group กล่าวว่า "เราเชื่อว่าสถานะด้านการเงินที่มีความเสี่ยงของแบงค์ ออฟ อีสต์ เอเชีย เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการแห่ถอนเงิน อย่างไรก็ตาม การที่ฮ่องกงแทบจะไม่เคยเกิดเหตุการณ์แห่ถอนเงินนั้น ทำให้เราเชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะกลับคืนสู่ความปกติโดยเร็วและแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการเงินของฮ่องกง ด้วยเหตุนี้เราจึงยังคงให้อันดับความน่าลงทุนของตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ outperform"
          ฮ่องกงยังไม่พบปัญหาธนาคารล้มละลายนับตั้งแต่ธนาคารกลางฮ่องกงก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2536 แต่ก่อนหน้านั้นในปีพ.ศ.2534 เคยเกิดเหตุการณ์ลูกค้าแห่ถอนเงินจากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และซิตี้กรุ๊ป ในฮ่องกง หลังจากธนาคาร BCCI Group ล้มละลายในปีพ.ศ.2534 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน