กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่เข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมาพุ่งขึ้น 32,000 รายแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ 493,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 445,000 ราย โดยตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นดังกล่าวได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงพายุเฮอริเคนไอค์และกุสตาฟ
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเป็นที่จับตามองของนักลงทุนในสหรัฐในขณะที่สภานิติบัญญัติและคณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ใกล้ที่จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแผนกอบกู้วิกฤตการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นพุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ พายุเฮอริเคนทั้งสองลูกส่งผลกระทบให้มีชาวอเมริกันขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานเพิ่มขึ้น 50,000 รายในรัฐหลุยส์เซียน่าและรัฐเท็กซัส แต่หากไม่รวมผลกระทบจากพายุเฮอริเคน อัตราผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นกัน ซึ่งตัวเลขรายสัปดาห์ขณะนี้พุ่งขึ้นเหนือระดับ 400,000 รายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 ซึ่งเป็นระดับที่นักวิเคราะห์มองว่า เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอยู่ในภาวะถดถอย โดยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 309,000 ราย
พายุเฮอริเคนกุสตาฟส่งผลกระทบให้มียอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดณ วันที่ 13 ก.ย.เป็นครั้งแรก โดยรัฐหลุยส์เซียน่ารายงานตัวเลขที่พุ่งขึ้น 18,409 ราย
นอกจากนี้ วิกฤตการเงินที่ทำให้ราคาบ้านปรับตัวลดลงและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องมีผลให้เศรษฐกิจเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะชะงักงัน โดยในเดือนส.ค.อัตราว่างงานพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 6.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--