ผู้บริโภคในฮ่องกงหลีกเลี่ยงการซื้ออาหารนำเข้าจากจีน หลังเด็กจีน 4 คนเสียชีวิตและล้มป่วยอีกกว่า 53,000 คนจากการดื่มนมปนเปื้อนสารเมลามีนที่ผลิตในจีน นอกจากนั้นยังมีเด็กฮ่องกงอีก 5 คนที่ล้มป่วยด้วยสาเหตุเดียวกัน
"นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนมีปัญหาความปลอดภัยอาหาร" ฟิโอน่า หว่อง นักวิเคราะห์ผู้บริโภคจากซันฮุงไก ซีเคียวริตี้ส์ ในฮ่องกง กล่าว "แต่ผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ลุกลามรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆมาก"
เหตุอื้อฉาวที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคชาวฮ่องกงบางส่วนหันไปบริโภคอาหารนำเข้าจากประเทศที่มีความน่าเชื่อถือกว่าจีน
"ฉันไม่ซื้ออาหารนำเข้าจากจีน" หญิงชาวฮ่องกงคนหนึ่งกล่าว "ส่วนมากฉันจะซื้ออาหารนำเข้าจากสหรัฐหรือออสเตรเลีย เพราะฉันเชื่อว่ามีความปลอดภัยกว่า"
ถึงกระนั้น ใช่ว่าผู้บริโภคทุกคนจะสามารถซื้ออาหารนำเข้าจากประเทศตะวันตกที่มีราคาค่อนข้างแพงได้
"ฉันซื้อผักผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศได้แค่นานๆครั้ง เพราะมันแพงเกินไป" หญิงฮ่องกงอีกคนหนึ่งกล่าว
ด้านผู้ขายผักผลไม้นำเข้าจากจีนกล่าวว่า พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากต้องเชื่อมั่นว่าสินค้าที่พวกเขารับมาขายมีความปลอดภัยพอ
"เราเป็นแค่พ่อค้าคนกลาง" คนขายผักนำเข้าจากจีนกล่าว "เราทำได้แค่เชื่อมั่นในการตรวจสอบคุณภาพของทางการจีนและฮ่องกง"
อย่างไรก็ตาม กรีนพีซ ยืนยันว่ารัฐบาลจีนไม่มีระบบตรวจสอบคุณภาพอาหารที่ดีพอ เนื่องจากเมื่อปีที่แล้วเพิ่งมีการตรวจพบยาฆ่าแมลงตกค้างในผักที่นำเข้าจากจีน
"บางครั้งเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผักผลไม้ดังกล่าวมาจากไหน" เจ้าหน้าที่กรีนพีซกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--