นักวิเคราะห์คาดวิกฤตการเงินสหรัฐฉุดรั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ลดลง

          นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สถานการณ์วุ่นวายในตลาดสินเชื่อของสหรัฐที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอาจยิ่งสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนกันยายน แม้ว่าขณะนี้ราคาน้ำมันเบนซินจะปรับตัวลดลงแล้วก็ตาม
          นักวิเคราะห์ 61 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นที่จัดทำโดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนอาจร่วงลงแตะที่ระดับ 71 จุดในเดือนนี้จากที่ประมาณการเมื่อสองสัปดาห์ก่อนไว้ที่ระดับ 73.1 จุด ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวกระเตื้องขึ้นจากเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลง
          ทั้งนี้ จากรายงานข่าวเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ว่า เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ ยื่นล้มละลาย ขณะที่รัฐบาลเข้าซื้อกิจการของอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นเนล กรุ๊ป (AIG) และตลาดหุ้นดิ่งลงถ้วนหน้าส่งผลให้สหรัฐเผชิญวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งรุนแรง (Great Depression) จนทำให้มีความเป็นไปได้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับเศรษฐกิจที่ต้องเผชิญแรงกดดันในช่วงที่เหลือของปีนี้
          "วิกฤตการณ์ในตลาดการเงินของสหรัฐจะพลิกผันจากที่ดีดตัวขึ้นในต้นเดือนก.ย." ไบรอัน เบธูน นักวิเคราะห์จากโกลบอล อินไซท์ อิงค์กล่าว "สถานะการเงินภาคครัวเรือนที่ย่ำแย่จะฉุดรั้งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในไตรมาสที่สามและสี่ของปีนี้"
          ทั้งนี้ ทางการมีกำหนดรายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นในเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (หรือคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย) โดยคาดว่าตัวเลขในผลสำรวจจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 63.9 - 73.3 จุด โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมาผลสำรวจความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 63 จุด และเคยดำดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 28 ปีที่ 56.4 จุดในเดือนมิ.ย.