ออสเตรเลียเตรียมทุ่มงบซื้อหลักทรัพย์ถึง A$4 พันล้านดอลล์ หวังฟื้นฟูตลาดตราสารหนี้

          รัฐบาลออสเตรเลียจะเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Residential Mortgage-Backed Securities: MBS) ด้วยงบประมาณถึง 4 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นภาวะชะงักงันในตลาดตราสารหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสินเชื่อที่เกิดขึ้นทั่วโลก
          เวย์น สวอน รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย กล่าวว่า สำนักงานบริหารการเงินของออสเตรเลียจะเป็นผู้ลงทุนในธุรกิจ 2 หน่วยด้วยวงเงินแต่ละแห่งถึง 2 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้เพราะตลาดขาดสภาพคล่อง เนื่องจากผลพวงที่เกิดขึ้นในตลาดเงินทั่วโลก ในขณะที่แต่ละประเทศต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันต่อมาตรการให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินในสหรัฐ
          บลูมเบิร์กรายงานว่า ยอดขายพันธบัตรที่มีสัญญาจำนองร่วงลง 85% แตะ 2.5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียต่อไตรมาส นับตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนต่างชาติต่างลดการกู้ที่เกี่ยวกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่ขาดทุนและมีการลดมูลค่าสินทรัพย์จากวิกฤตซับไพรม์ในสหรัฐถึง 5.22 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคารและสถาบันการเงินรายเล็กที่จะปล่อยกู้ให้กับกลุ่มผู้ซื้อบ้าน
          เชน โอลิวเอร์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การลงทุนของเอเอ็มพี แคปิตอล อินเวสเตอร์ส กล่าวว่า การดำเนินการเช่นนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผิดปกติ และจะทำให้มีเงินทุนจำนวนมาก และอาจจะช่วยให้ต้นทุนในการระดมทุนลดลง และสร้างแรงกดดันต่อธนาคารต่างๆให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง
          ไมค์ สมิธ ผู้บริหารของออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ได้ออกมาส่งสัญญาณเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารรายใหญ่อันดับ 4 แห่งนี้อาจจะไม่ลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 7 ต.ค.