นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงานคนใหม่ กล่าวในวันแรกที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ว่า จะสานต่อนโยบายด้านพลังงานจากรมว.คนเก่า โดยเฉพาะนโยบายการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ตามแผนบันได 5 ขั้น ซึ่งจะมีการแยกภาคขนส่งและอุตสาหกรรมออจากภาคครัวเรือนแต่จะปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีเมื่อใดนั้นเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)
ส่วนภาคครัวเรือนจะมีการขยายระยะเวลาการตรึงราคาก๊าซแอลพีจีไว้ที่ 18 บาท 13 สตางค์ต่อกิโลกรัม ตามมาตรการ 6 เดือนของรัฐบาลต่อไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาล
รมว.พลังงาน กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้ข้าราชการกระทรวงพลังงานเร่งเดินหน้านโยบายส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์อี 85 ตามที่รัฐบาลชุดก่อนวางไว้แล้ว เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ และเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศ
และได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2551 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นหน่วยงานราชการมีการเบิกจ่ายงบประมาณไม่เต็มวงเงิน ที่มีงบประมาณรวม 1.66 ล้านล้านบาท โดยขณะนี้มีการเบิกจ่ายงบประมาณ 1.488 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 89%ของงบประมาณทั้งหมด
ทั้งนี้ หากหน่วยงานราชการใดมีความจำเป็นต้องปรับแผนการใช้งบประมาณ หรือของบประมาณผูกพัน ก็ให้เร่งเสนอเข้ามายังสำนักงบประมาณ เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 30 กันยายนนี้
นอกจากนี้ยังได้มอบหลักการทำงาน 4 ข้อฝห้กับข้าราชการ ได้แก่ ความรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ ,ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการทำงาน , ความมีประสิทธิภาพ และทำงานด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ โดยในวันที่ 27-28 ก.ย.นี้ รมว.พลังงาน ได้เรียกหน่วยงานในสังกัดมาประชุมร่วมกันเพื่อรายงานแผนดำเนินงานทั้งหมดด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--