เงินยูโร-ปอนด์อ่อนค่าที่ตลาดโตเกียวเช้านี้ เหตุนลท.วิตกภาคการเงินสหรัฐ

          เงินยูโรและเงินปอนด์สเตอริงอ่อนค่าลงในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ (29 ก.ย.) จากความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในภาคการเงินของสหรัฐที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เงินดอลลาร์ได้รับปัจจัยกระตุ้นจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐจะลงมติในแผนช่วยเหลือภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์เพื่อคลายวิกฤติสินเชื่อในวันนี้  
          ทั้งนี้ เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4505 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่เงินปอนด์ดิ่งลงแตะที่  1.8289 ดอลลาร์ต่อยูโร ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 106.55 เยนต่อดอลลาร์
          โดยเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่บริษัทฟอร์ติสซึ่งเป็นกลุ่มการเงินของเบลเยียม-ดัทช์ได้รับการช่วยเหลือ หลังนายฌอง-คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลาง ยุโรป (อีซีบี)เปิดประชุมฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่ของเนเธอร์แลนด์, เบลเยียม และ ลักเซมเบิร์ก    
          นอกจากนี้ เงินปอนด์ยังได้รับผลกระทบเช่นกัน เมื่อแหล่งข่าวเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เตรียมโอนกิจการธนาคารแบรดฟอร์ด  แอนด์ บิงลีย์ เป็นของรัฐ และกำลังหารือเรื่องการขายเงินฝากและสาขาต่างๆของธนาคาร ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าสถานการณ์ดังกล่าวกำลังส่งสัญญาณให้เห็นว่า วิกฤติการเงินไม่ได้จำกัดอยู่ที่สหรัฐ แต่กำลังลุกลามไปทั่วโลก
           ทั้งนี้ ผู้นำสภาคองเกรสจากพรรคเดโมเครตและพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเขามีข้อตกลงขั้นต้นในช่วงเช้าวานนี้ แต่ยังคงมีข้อสงสัยว่าแผนการที่จะใช้เงินภาษีของประชาชนมาซื้อหนี้เสียด้านการจำนองนั้นจะสามารถช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาดที่กำลังฝังรากลึกได้หรือไม่ ขณะเดียวกันวาโชเวีย คอร์ป ก็กำลังเจรจากับคู่แข่งเกี่ยวกับการเทคโอเวอร์ หลังจากหุ้นของวาโชเวียดิ่งลง 27 % เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความหวั่นวิตกต่อภาวะการลงทุนด้านธุรกิจปล่อยกู้จำนอง