รมว.คลังทั่วโลกเล็งยื่นมือแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา มุ่งกระตุ้นดอลล์แข็งค่า

ข่าวต่างประเทศ Monday September 29, 2008 10:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          เทรดเดอร์ในตลาดปริวรรตเงินตราและผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์เริ่มมีกระแสคาดการณ์ว่า รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจากกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะร่วมมือกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์
ความผันผวนในตลาดปริวรรตเงินตราทวีความรุนแรงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งเป็นช่วงที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ หรือ จี-7 ยื่นมือเข้าแทรกแซงการซื้อขายในตลาด โดยเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 2.5% เมื่อเทียบกับกลไกการแลกเปลี่ยนสกุลเงินพื้นฐานขณะที่ความผันผวนในตลาดวอลล์สตรีททวีความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นวันที่เงินดอลลาร์ร่วงลงหนักที่สุดในหนึ่งวันเมื่อเทียบกับเงินยูโรนับตั้งแต่ปี 2544
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 9% จากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนต่างที่เหวี่ยงตัวแรงมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สภานิติบัญญัติเตรียมที่จะลงมติต่อแผนการช่วยเหลือภาคธุรกิจธนาคารของนายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่า 23% นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.21 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ระดับ 1.4500 ยูโรต่อดอลลาร์จากระดับ 1.4614 ยูโรต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไปแล้ว 2.7% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาณบ่งชี้ที่ว่ารัฐมนตรีคลังประเทศต่างๆอาจเข้ายื่นมือแทรกแซงการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานั้นอาจมีอิทธิพลมากพอที่จะกำหนดพื้นฐานของค่าเงินต่างๆ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับคืนมาได้ แม้ว่าจะดำเนินการอัดฉีดเงินเสริมสภาพคล่องในระบบการเงินทั่วโลกไปกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแล้วก็ตาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ