สมาคมธนาคารไทย เสนอ 5 ข้อเรียกร้องต่อนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลังคนใหม่ ในโอกาสที่ได้ร่วมหารือกันวันนี้ โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย(KTB) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ มีข้อเสนอ 5 ข้อสำคัญ โดยข้อแรก ขอให้รัฐบาลเร่งโครงการลงทุนภาครัฐโดยเร็ว เพราะเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุน และจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง
2. การดูแลสภาพคล่องในระบบ โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนของต่างชาติในไทย เช่น การออกพันธบัตรสกุลเงินบาท (บาทบอนด์
) และต่างชาติจะสว็อบเป็นเงินดอลลาร์นำออกนอกประเทศนั้นไม่ควรให้ทำได้ง่ายเกินไป เนื่องจากขณะนี้สภาพคล่องในตลาดโลกเริ่มหดหาย และแม้ขณะนี้ไทยยังไม่มีปัญหาสภาพคล่อง แต่ไม่ควรทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นในอนาคต
3.มาตรการภาษีและสิทธิประโยชน์ในการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลเคยออกกฎหมายปรับโครงสร้างหนี้ออกมาในช่วงสั้นใช้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ให้เป็นเรื่องปกติในการปรับโครงสร้างหนี้ภาคอุตสาหกรรม เพื่อช่วยลดภาระให้กับลูกหนี้ในการปรับโครงสร้างหนี้
4.ต้องการให้กระทรวงการคลังช่วยสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเดิมธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เคยสนับสนุนแก่สถาบันการเงินเพื่อปล่อยกู้ในบางอุตสาหกรรม แต่ภายใต้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ฉบับใหม่นั้น ธปท.ไม่สามารถสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำได้อีก ขณะที่ยังมีอีกหลาย sector เช่น ผู้ประกอบการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีความยากลำบากและต้องการเม็ดเงินสนับสนุน หรือนำเงินกู้ไปสนับสนุนใน sector ที่ภาครัฐต้องการส่งเสริมเป็นพิเศษ
5.ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนกฎหมายหลักประกัน ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการเสนอในหลายรัฐบาลแล้วแต่ยังไม่เคยผ่านการพิจารณา หลักการของกฎหมายดังกล่าวจะทำให้ภาคธุรกิจนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ เช่น สินค้าคงคลัง หรือวัตถุดิบนำมาใช้เป็นหลักประกันสำหรับการยื่นขอสินเชื่อเพื่อให้ลูกค้าโดยเฉพาะ SMEs สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยนำสินทรัพย์ตามที่มีกฎหมายรองรับมาตีเป็นหลักประกัน
นายอภิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงินขณะนี้ยังมีอยู่แม้จะปรับลดลงบ้างจากต้นปี แต่ยังไม่ถึงในระดับตึงตัว แต่ต้องการให้รัฐบาลมองไปข้างหน้าและให้หาวิธีป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐ โดยนำสิ่งที่สมาคมฯ มีความเป็นห่วงนำไปพิจารณาเพื่อเสนอให้รัฐบาลหาทางป้องกันแก้ไข
"สมาคมฯ กังวลเรื่องปัญหาสภาพคล่อง เพราะบางประเทศ เช่น สหรัฐฯ หรือยุโรป เริ่มมีปัญหาแล้ว และยังมีอีกหลายประเทศตามมา ดังนั้นเมื่อเราไม่ได้อยู่ในประเทศที่จะมีเงินมาก ตลาดก็ต้องหาสภาพคล่อง หากภาคเอกชนไม่มีเงินก็ต้องถอนเงินออกไป ก็อาจทำให้สภาพคล่องมีปัญหาได้ สิ่งที่เราพูดกัน คือการหาทางป้องกัน"
ด้านนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังพร้อมรับข้อเสนอของสมาคมธนาคารไทยไปพิจารณา ซึ่งทั้ง 5 ข้อเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับปัญหาสภาพคล่องและวิกฤติสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ส่วนข้อเสนอที่สมาคมฯ ต้องการให้เข้ามาดูแลเรื่องการออกบาทบอนด์ของนักลงทุนต่างชาตินั้น เห็นว่าจะต้องมีการพิจารณาและปรับตัวให้ทันกับสถาการณ์ และเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ไข ไม่ใช่เรื่องที่กระทรวงการคลังต้องนำมาพิจารณาเพียงฝ่ายเดียว
"ตอนนี้เรามีคณะกรรมการติดตามแก้ไขสถานการณ์ในภาวะฉุกเฉินอยู่แล้ว และมีการติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และหารือกันทุกสัปดาห์ ดูความจำเป็นหากจะมีการเสนอแนะมาตรการมาใช้บ้าง ก็ต้องหารือกัน เราต้องยอมรับความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีอยู่ทุกวัน ไม่ใช่เพียงจากการประกาศหรือกระบวนการต่างๆ ที่นำมา ดังนั้นเราต้องพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์" นายศุภรัตน์ กล่าว
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง กล่าวว่า การหารือร่วมกันกับสมาคมฯ นั้น ธนาคารทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าจะช่วยดูแลสภาพคล่องในระบบเป็นอย่างดี ส่วนข้อเสนอ 5 ข้อนั้น กระทรวงการคลังพร้อมรับมาไว้พิจารณา แต่จะมีการให้ความเห็นหลังการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 8-9 ต.ค.51
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมวันนี้ไม่ได้มีการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประเทศไทยจากวิกฤติการณ์ทางการเงินในสหรัฐฯ
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--