รัฐบาลอังกฤษได้เข้าซื้อกิจการของธนาคารแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สุดของอังกฤษแล้ว หลังจากที่สถาบันการเงินแห่งนี้โดนพิษวิกฤตสินเชื่อเล่นงาน ขณะที่คู่แข่งปฏิเสธที่จะเป็นผู้ซื้อสินทรัพย์จำนองที่ลูกหนี้เผชิญอุปสรรคในการผ่อนชำระ
อย่างไรก็ดี ธนาคารบังโก ซานตันเดอร์ เอสเอ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสเปนจะจ่ายเงิน 612 ล้านปอนด์ (1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับสำนักงานสาขาของธนาคารแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ 197 แห่งและจ่ายเงิน 2 หมื่นล้านปอนด์เพื่อปกป้องเงินฝากของลูกค้า ขณะที่หุ้นของธนาคารได้ถูกระงับการซื้อขายก่อนที่ตลาดหุ้นลอนดอนจะเปิดทำการวันนี้
"มูลค่าของสินทรัพย์อยู่ที่พื้นฐานเงินฝากของลูกค้าในธนาคาร" อเล็กซ์ พอตเตอร์ นักวิเคราะห์จาก Collins Stewart Plc. กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ กลายเป็นธนาคารของอังกฤษรายล่าสุดที่ถูกแปรสภาพไปเป็นกิจการของรัฐในปีนี้ เช่นเดียวกับธนาคารนอร์ทเทิร์น ร็อค ขณะที่รัฐบาลทั่วโลกต่างดำเนินมาตรการป้องกันการล้มละลายของธนาคารกันถ้วนหน้า โดยเจ้าหน้าที่กำกับดูแลในเบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์กได้อัดฉีดเงิน 1.12 หมื่นล้านยูโร (1.63 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่ออุ้มกิจการของฟอร์ติส สถาบันการเงินรายใหญ่อันดับ 1 ของเบลเยี่ยม ขณะที่ในสหรัฐได้เข้าซื้อกิจการของวอชิงตัน มูชวล อิงค์ไปเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา และขายสินทรัพย์ให้กับเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค
ขณะเดียวกัน สภานิติบัญญัติของสหรัฐได้ร่วมกันพิจารณาถึงการมอบอำนาจให้รัฐบาลใช้มาตรการซื้อหนี้เสียในตลาดซับไพรม์มูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ธนาคารทั่วโลกต่างรายงานตัวเลขขาดทุนและการปรับลดมูลค่าทางบัญชี 5.55 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินเป็นต้นมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--