ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เงินปอนด์ และดอลลาร์นิวซีแลนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังเข้าซื้อดอลลาร์แม้มีรายงานว่าสภาคองเกรสมีมติไม่อนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4450 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4613 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.8091 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.8445 ดอลลาร์/ปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.20 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 105.97 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0878 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0902 ฟรังค์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.6710 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6857 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.8016 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8309 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน กล่าวว่า "มีมุมมองด้านบวกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจในสหรัฐก็คือ นับจากนี้ไปจะไม่มีธนาคารใหญ่ๆล้มอีกแล้ว เพราะธนาคารเหล่านี้ล้มละลายไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ และส่วนที่เหลือก็เป็นธนาคารที่ใหญ่เกินกว่าที่จะล้ม"
"นักลงทุนยังคงเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐ แม้มีรายงานว่าสภาคองเกรสสหรัฐมีมติไม่รับแผนฟื้นฟูภาคเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ตามที่รัฐบาลสหรัฐยื่นเสนอก่อนหน้านี้ โดยสมาชิกสภาคองเกรสลงมติด้วยคะแนนเสียง 228 ต่อ 205 เสียง ไม่รับรองร่างกฎหมายแผนฟื้นฟูภาคการเงิน โดยให้เหตุผลว่ายังไม่มั่นใจในแผนการดังกล่าว" วูลฟอล์คกล่าว
ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่รายงานว่า รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. หลังจากร่วงลง 0.6 % ในเดือนก.ค.และสูงกว่าที่ นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2%
ค่าเงินปอนด์อังกฤษได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่ารัฐบาลอังกฤษได้เข้าซื้อกิจการของธนาคารแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สุดของอังกฤษแล้ว หลังจากที่สถาบันการเงินแห่งนี้โดนพิษวิกฤตสินเชื่อเล่นงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--