ญี่ปุ่นเผยอัตราว่างงานทะยานแตะ 4.2%, การใช้จ่ายภาคครัวเรือนร่วง 4%

          อัตราว่างงานในญี่ปุ่นทะยานแตะ 4.2% ในเดือนส.ค.ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ส่วนการใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันที่ 4% ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจในประเทศจะยังซบเซาต่อไป
          อุปสงค์ที่ซบเซาทั้งในประเทศและจากต่างประเทศส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งฟันธงว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว ในขณะเดียวกันก็คาดการณ์ว่าความเชื่อมั่นในหมู่ผู้ผลิตรายใหญ่อาจร่วงหนักสุดในรอบ 5 ปีในเดือนนี้
          "ตอนนี้ภาคเอกชนต่างให้ความสำคัญกับการลดต้นทุน และพยายามหลีกเลี่ยงการขึ้นเงินเดือนหรือจ้างพนักงานเพิ่ม" โยชิกิ ชินเกะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Dai-Ichi Life Research Institute ในโตเกียว กล่าว "เราอาจต้องรอจนถึงไตรมาส 2 ของปีหน้ากว่าตลาดแรงงานและการใช้จ่ายผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง" 
          ในขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า สัดส่วนระหว่างตำแหน่งงานว่างกับจำนวนผู้สมัครงานก็ลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ 0.86 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2547, ดัชนีราคาผู้บริโภคไม่นับรวมอาหารสดก็ทะยาน 2.4% ในเดือนส.ค. ซึ่งถือว่าขยายตัวเร็วสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2540, ความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนค่าแรงเดือนก.ค.ก็เพิ่มขึ้นน้อยสุดในรอบปี
          ทั้งนี้ เซยู่ ลิมิเต็ด (Seiyu Ltd.) บริษัทในเครือวอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ (Wal-Mart Stores Inc.) จะลดจำนวนพนักงานลงกว่า 350 ตำแหน่ง พร้อมปิดร้านค้า 20 สาขาจากทั้งหมด 390 สาขาทั่วประเทศ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน