สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ (30 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนพากันโยกย้ายฐานการลงทุนที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง หลังจากสภาคองเกรสคัดค้านแผนกว้านซื้อหนี้เสียจากธนาคารเพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ จนทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททรุดตัวลงหนักที่สุดตั้งแต่ปี 2530
โดยในช่วงเช้านี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 103.53 เยนต่อดอลลาร์ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 104.20 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.4368 ดอลลาร์ต่อยูโร
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์และได้บดบังความหวังในการหาทางออกสำหรับวิกฤติการเงินที่ทำให้สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่รวมถึงเลห์แมน บราเธอร์ส ต้องประสบภาวะล้มละลายเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จนทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำลงอย่างรุนแรง
นักวิเคราะห์กล่าวแสดงทัศนะว่า เงินดอลลาร์มีปัจจัยลบรอบด้านที่ทำให้เทรดเดอร์ต้องเทขายออกมา อาทิ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงแนวโน้มสถานะการคลังของรัฐบาลสหรัฐที่อ่อนแอ ขณะที่มีกระแสคาดการณ์ว่า รัฐจะใช้เงินเพื่อช่วยเหลือธนาคารต่างๆ
นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่เงินดอลลาร์เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ เงินยูโรและปอนด์ก็ดิ่งลงเช่นกัน ขณะที่ธนาคารต่างๆในยุโรปล้วนเผชิญผลกระทบที่ขยายวงกว้างมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนต้องรีบเข้าซื้อสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดภาวะปั่นป่วน เช่น เงินเยนและฟรังก์สวิส
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์กล่าวว่า นักลงทุนสถาบันของญี่ปุ่นบางรายเข้าซื้อดอลลาร์ขณะที่เตรียมปิดงบปัญชีสำหรับช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--