นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)เมอง่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีปฏิกริยาทันที หลังสภาคองเกรซสหรัฐ ไม่อนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ต้องนำเสนอเข้าสภาอีกรอบ ในคืนวันที่ 1 ต.ค.
นอกจากนั้น สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลทำให้ดอกเบี้ยในตลาดการเงินปรับลดลง แต่ก็เชื่อว่าธนาคารลางของประเทศต่างๆ ต้องเข้ามาสร้างสภาพคล่อง เพื่อให้สภาวะการเงินผ่อนคลาย แต่ระยะสั้นอาจเกิดความสับสนในตลาดเงินได้ เพราะแม้ดอกเบี้ยจะลดลง แต่อาจยังไม่มีธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากเหตุการณ์ยังไม่ชัดเจน
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในสหรัฐ ลุกลามไปถึงยุโรปและญี่ปุ่น แม้ไทยจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงในระยะสั้น แต่ไทยยังมีการติดต่อกับต่างประเทศ ดังนั้น สิ่งที่ต้องระวังคือ สภาพคล่อง เนื่องจากขณะนี้ระบบสินเชื่อในต่างประเทศไม่ทำงาน การที่ภาคเอกชนจะระดมเงินในต่างประเทศทำได้ยาก หรือจะมีต้นทุนสูง จึงต้องหันมาระดมทุนในประเทศแทน และยังมีหน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น เอดีบี ธนาคารโลก ที่อาจเข้ามาระดมทุนในไทย ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องตึงตัวได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราเป็นห่วง
"เมื่อวานนี้ สมาคมธ.ไทย ยกเรื่องนี้หารือกับ รมว.คลัง ซึ่งให้ดูให้ดีในการเปิดประตูให้ต่างประเทศมาระดมเงินในไทย ต้องระวัง เพราะขณะนี้มีเข้ามาเยอะ ทั้งตลาดหุ้นกู้เอกชน ที่ทำให้ดอกเบี้ยขึ้นไปแพง ทำให้ บ.เอกชนไทย ระยะหลังออกหุ้นกู้ยากขึ้น แม้การระดม ดังกล่าว จะมีเงื่อนไข ที่นำเงินปล่อยกู้โครงการลงทุนในประเทศ แต่มีบางส่วนที่สวอปเป็นดอลลาร์ออกนอกประเทศ" นายประสาร กล่าวทางรายการวิทยุเช้านี้
กรรมการผู้จัดการ KBANK เสนอแนะให้คนไทย ใช้ชีวิตอย่างเพียงพอ และมีสติ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสหรัฐมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ การมีหนี้สินต่อทุนมากเกินไป และเกิดปัญหาผ่านตราสารหนี้ต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องขอความพอเพียง ปัญหาที่เกิดจากความไม่โปร่งใส ของต่างชาติ ซึ่งธุรกิจการเงิน ต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้ ปัญหาสภาพคล่อง สะท้อนว่าสภาพคล่องในตลาดการเงิน เป็นเรื่องสำคัญ อย่าผูกติดกับสินทรัพย์ที่ไม่มีการซื้อขาย และคิดว่าไม่มีปัญหา
"ควรนำปัญหานี้เป็นเครื่องเตือนใจ ทั้งประชาชน นักลงทุน หรือภาครัฐ อย่าทำอะไรเกินตัว และอย่าประมาท" กรรมการผู้จัดการ KBANK กล่าว
นายประสาร กล่าวถึงกรณีที่บริษัท ฟอร์ติส ของเบลเยี่ยมกำลังประสบปัญหาการเงินเช่นกัน ซึ่งบริษัทในเครือเดียวกันได้ถือหุ้นในบริษัทประกันในเครือ ธ.กสิกรไทยว่า ปัญหาของฟอร์ติสนั้น ขณะนี้ธนาคารกลางของเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก เข้ามาถือหุ้น 50% ในธุรกิจธนาคารของฟอร์ติสแล้ว ซึ่งต้องติดตามนโยบายหลังจากนี้ว่าจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับธุรกิจประกันภัยหรือไม่ในเครือเดียวกันหรือไม่
ส่วนกรณีการถือหุ้นใน บริษัทประกันเครือกสิกรไทย นั้น ธุรกิจประกันภัยของไทยยังมีกฎระเบียบเป็นแบบอนุรักษ์นิยมอยู่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะไม่มีการนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์แปลก ๆ อย่างแน่นอน
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--