มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นต้องขาดทุนถึง 506 ล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้จากการลงทุนในมอร์แกน สแตนลีย์มูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่สภาคองเกรสไม่ยอมรับรองแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินสหรัฐมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์
ตามแผนการลงทุนดังกล่าว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล ตกลงว่า จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของมอร์แกน สแตนลีย์มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ในราคา 25.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อวานนี้ หุ้นของวาณิชธนกิจรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 15% ปิดที่ 20.99 ดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า การขาดทุนของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความเสี่ยงสำหรับบริษัทในเอเชียที่ต้องการเข้าไปทำกำไรในวอลล์ สตรีท โดยมอร์แกน สแตนลีย์ ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค ต่างดึงธนาคารและกองทุนเพื่อความมั่งคั่งในภูมิภาคเอเชียเข้ามาลงทุนในองค์เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากราคาบ้านสหรัฐที่ร่วงลงทำให้เกิดวิกฤติการเงินครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะกดดันครั้งใหญ่
นาโอเทรุ เทราโอกะ จากชูโอ มิตซุย แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินสหรัฐเองก็ถือเป็นเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เรื่องนี้ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ดังนั้นช่วงนี้อะไรๆก็อยู่ในภาวะเลวร้ายได้
หุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ในตลาดหุ้นโตเกียวร่วง 7% เมื่อเวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในโตเกียว หลังจากหุ้นไฟแนนซ์ในเอเชียร่วง หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติไม่รับรองแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินสหรัฐมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--