ยอดเฮดจ์ฟันด์เอเชียแห่ปิดตัวปีนี้พุ่ง เหตุคู่แข่งในยุโรป-สหรัฐตักตวงกำไรจากวิกฤตได้มากกว่า

ข่าวต่างประเทศ Tuesday September 30, 2008 11:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          อัตราการปิดตัวลงของเฮดจ์ ฟันด์ ในเอเชียพุ่งสูงขึ้นถึง 19 ในปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เฮดจ์ ฟันด์ หดตัวลงเป็นครั้งแรก เนื่องจากลูกค้าได้พากันถอนเงินหลังจากที่กองทุนในเอเชียมีผลการดำเนินงานสู้คู่แข่งในสหรัฐและยุโรปไม่ได้
ปีเตอร์ ดักลาส ผู้จัดการบริษัท GFIA Pte ที่ปรึกษาเฮดจ์ ฟันด์ในสิงคโปร์ กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ในปีนี้มีแนวโน้มว่า เราจะได้เห็นจำนวนเฮดจ์ฟันด์ในเอเชียลดลง ผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ในเอเชียส่วนใหญ่ที่เราได้พูดคุยด้วยต่างเห็นว่า เงินทุนกำลังไหลออกจากทั้งเฮดจ์ ฟันด์รายเล็กและรายใหญ่
บลูมเบิร์กรายงานว่า เฮดจ์ ฟันด์ ประมาณ 70 แห่งในเอเชียได้ปิดตัวลงเมื่อช่วงเดือนส.ค. นับเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากช่วง 8 เดือนแรกของปีที่แล้วที่อยู่ที่ 59 แห่ง ผู้จัดการที่บริหารเฮดจ์ ฟันด์ 1,199 กองทุนในเอเชียมีจำนวน 618 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธ.ค.ปีที่แล้วที่ 1,196 กองทุน ส่วนมูลค่าสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารและดูแลตกลงมาอยู่ที่ 1.68 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. จากระดับสิ้นปีที่แล้วที่ 1.76 แสนล้านดอลลาร์
ผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ในเอเชียกว่าครึ่งหนึ่งเป็นกลุ่มที่ซื้อขายหลักทรัพย์เท่านั้น และไม่สามารถซื้อขายแข่งกับคู่แข่งในสหรัฐและยุโรปที่มียุทธศาสตร์ที่หลากหลายมากกว่าและสามารถทำกำไรจากวิกฤตผันผวนในตลาดการเงินได้มากกว่า โดยรายได้โดยเฉลี่ยของเฮดจ์ฟันด์ในเอเชีย ร่วงลง 12.6% ในปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ที่ลดลงแค่ 0.1% ในอเมริกาเหนือ 5.8% ในยุโรป ส่วนในเอเชียเมื่อปีที่แล้ว รายได้เพิ่มขึ้น 18% ซึ่งถือว่าสดใสทั่วทั้งภูมิภาค
นักลงทุนอาจจะถอนเงินจากกองทุนมากกว่าเดิม หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่รับรองแผนการฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยดัชนี Standard & Poor's 500 ดิ่งลงหนักสุดวานนี้หลังจากที่แผนการดังกล่าวไม่ได้รับการอนุมัติ
เมลวิน เทียว ผู้อำนวยการศูนย์กลางเฮดจ์ ฟันด์ของบีเอ็นพี พาริบาส์ กล่าวว่า จะมีการไถ่ถอนมากขึ้น นักลงทุนในกองทุนจำนวนมากในเอเชียมาจากประเทศตะวันตก สภาพคล่องจะหดตัวลงและนักลงทุนก็จะไถ่ถอนการลงทุนในเฮดจ์ ฟันด์ของตนเอง เพื่อที่จะได้มีเงินทุนใช้แบบฉุกเฉินได้อย่างสะดวก แม้ว่าการลงทุนเหล่านั้นจะดูดีอยู่ในขณะนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ