ธนาคารกลางในเอเชียพร้อมลงมือบรรเทาวิกฤตการเงิน หลังคองเกรสเมินแผนฟื้นฟู

          ธนาคารกลางในประเทศต่างๆตั้งแต่ออสเตรเลียไปจนถึงญี่ปุ่นได้อัดฉีดเงินสดเข้าตลาด และให้คำมั่นว่า จะดำเนินการมากกว่านี้ เพื่อบรรเทาภาวะสินเชื่อตึงตัว หลังจากที่สภาคองเกรสได้ลงมติไม่รับรองแผนการฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์
          ในวันนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นและออสเตรเลียได้อัดฉีดเงินเข้าระบบการเงินมูลค่า 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ผู้บริหารธนาคารกลางในเกาหลีใต้ อินเดีย และฮ่องกงให้คำมั่นว่า จะอัดฉีดสภาพคล่องหากพิจารณาแล้วว่าจำเป็น
          บลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ก็ดิ่งลงถ้วนหน้า จากแรงเทขายทั่วโลก เนื่องจากความวิตกกังวลว่า วิกฤตการด้านการเงินย่ำแย่ลงจะฉุดรั้งเศรษฐกิจประเทศต่างๆเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเองก็ร่วงลงในจังหวะที่รวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 5 ปีในเดือนส.ค. ส่วนเกาหลีใต้เองก็มียอดส่งออกสินค้าที่ลดลงจนทำให้ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
          เชน โอลิเวอร์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ของเอเอ็มพี แคปิตอล อินเวสเตอร์ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้กำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลก ท้ายที่สุด ธนาคารกลางทั่วโลกคงจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
          คาโอรุ โยซาโน่ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและนโยบายการเงินญี่ปุ่นก็ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้มาก ด้านดิว่า กวีนิกุนโด รองผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ห่างไกลจากคำว่าปกติเป็นอย่างยิ่ง และจำเป็นต้องใช้มาตรการพิเศษ
          ทางด้านนายเควิน รัดด์ นายกฯออสเตรเลีย กล่าวว่า สภาคองเกรสควรจะอนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงิน หรือมาตรการใดๆที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
          นายโจเซฟ ยัม ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกล่าวว่า ธนาคารพร้อมที่จะอัดฉีดเงินเข้าระบบธนาคารมากขึ้น หากพิจารณาแล้วว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น ส่วนธนาคารกลางอินเดียก็อาจจะเข้ามาควบคุมความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ส่งผลคุกคามต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ