เชียลา แบลร์ ประธานบรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (FDIC) ถูกบีบให้เข้าไปมีบทบาทมากขึ้นในการแก้ไขวิกฤตการณ์สินเชื่อ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีข้อจำกัดในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา FDIC รุกคืบเข้ามามีบทบาทในการกอบกู้วิกฤตการณ์การเงินเป็นครั้งแรกด้วยการเรียกร้องให้ทางการสหรัฐใช้มาตรการยับยั้งการล่มสลายในระบบการเงิน และแนะนำให้ซิตี้กรุ๊ปเข้าซื้อธุรกิจการธนาคารที่ประสบปัญหาของวาโชเวีย
แบลร์ วัย 54 ปี ก้าวเข้ามาสานต่อเป้าหมายของเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ในการช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา เนื่องจากคณะกรรมการเฟดพยายามลดบทบาทตนเองในการนำเงินในทุนสำรองของเฟดมาช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ล้มละลาย หลังจากนักวิเคราะห์บางคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า เฟดกำลังทำงานเกินหน้าที่
นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาดูว่า วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติ รับหรือไม่รับ แผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ในคืนวันนี้ ซึ่งแผนฉบับใหม่นี้จะครอบคลุมถึงการเพิ่มค้ำประกันวงเงินฝากธนาคารที่ได้รับการค้ำประกันโดย FDIC จาก 100,000 ดอลลาร์ เป็น 250,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยกอบกู้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่มีต่อสถาบันการเงิน
จอห์น โบห์เนอร์ หนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า เขาสนับสนุนแผนการดังกล่าว และเชื่อว่าจะผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และเชื่อว่าการที่ FDIC เพิ่มการค้ำประกันวงเงินฝากธนาคาร และการเพิ่มการให้ความคุ้มครองต่อผู้เสียภาษีจะสามารถดึงดูดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันได้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--