สหรัฐเผยยอดขายยานยนต์ร่วง 27% ในเดือนก.ย. หนักสุดในรอบ 17 ปี

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 2, 2008 09:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          สหรัฐรายงานว่ายอดขายยานยนต์เดือนก.ย.ร่วงลง 27% ซึ่งถือว่าย่ำแย่สุดนับตั้งแต่ปี 2534 อันเป็นผลมาจากวิกฤตสินเชื่อและสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา
ยอดขายของฟอร์ด มอเตอร์ ร่วง 35% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว, โตโยต้า มอเตอร์ ลดลง 32% ซึ่งถือว่าแย่สุดในรอบกว่า 20 ปี, เจเนอรัล มอเตอร์ ลดลง 16%, นิสสัน มอเตอร์ ร่วง 37%, ไครส์เลอร์ แอลแอลซี ร่วง 33% และ ฮอนด้า มอเตอร์ ลดลง 24%
ยอดขายยานยนต์ลดลงเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันในเดือนก.ย. ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดในรอบ 17 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการเงินที่กดดันให้ผู้ปล่อยกู้ต้องเข้มงวดกว่าเดิม ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้บริโภคต้องลดการใช้จ่ายลง
"ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินหลายแห่งส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค" ทอม ลิบบี นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยตลาด เจ.ดีพาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ในมิชิแกน กล่าว "หากผู้บริโภครอได้พวกเขาก็จะไม่ซื้อรถในช่วงนี้"
บริษัทออโต้ดาต้า คอร์ป ในนิวเจอร์ซี รายงานว่า ยอดรถยนต์ลดลงเหลือ 12.5 ล้านคัน จาก 16.2 ล้านคันในเดือนก.ย.ปีที่แล้ว โดยยอดขายโดยเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 16.8 ล้านคัน
ในเดือนก.ย. จีเอ็ม ฟอร์ด และไครส์เลอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ของสหรัฐ มีสัดส่วนในตลาดเพิ่มขึ้นแตะ 52.3% จาก 50.8% เมื่อปีที่แล้ว ส่วนแบรนด์ของญี่ปุ่นครองสัดส่วนลดลงเหลือ 39.9% จาก 42.1% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ