วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้งบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ และเป็นมหาเศรษฐีนักลงทุนที่รุกซื้อหุ้นในบริษัทใหญ่ๆทั่วโลก แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐ "ตกต่ำจนติดฟลอร์" หลังจากบริษัทจำนวนมากประสบความยากลำบากในการระดมทุนและอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น
"ตลอดชีวิตของผม ผมยังไม่เคยเห็นปรากฏการณ์ที่ประชาชนหวั่นวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจมากเท่าในยุคนี้ เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ย่ำแย่มาก และภาวะสินเชื่อตึงตัวกำลังฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ตกต่ำลงไปอีก" บัฟเฟตต์กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ PBS
"นับตั้งแต่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส และวอชิงตัน มูชวล รวมถึงการที่เมอร์ริล ลินช์ ขายกิจการให้แบงค์ ออฟ อเมริกา และธนาคารวาโชเวียขายกิจการให้เจพีมอร์แกน ได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วตลาดเงินและตลาดทุน และสถาบันการเงินหลายแห่งก็มีประสบความยากลำบากในการระดมทุน" บัฟเฟตต์กล่าว
แต่ท่ามกลางภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หรือ Great Depression ซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลกนั้น บริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ของบัฟเฟตต์ ยังคงรุกซื้อหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ซึ่งล่าสุดได้เข้าซื้อหุ้นจำนวนมากในโกลด์แมน แซคส์ และเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) เพื่อช่วยให้บริษัทเหล่านี้สามารถนำเงินไปกระตุ้นสภาพคล่องภายในองค์กร
บัฟเฟตต์กำลังพลิกวิกฤติที่ตลาดหุ้นตกอยู่ในภาวะผันผวนและตลาดสินเชื่อตกอยู่ในภาวะตึงตัว ให้เป็นโอกาสในการรุกซื้อหุ้นในบริษัทขนาดใหญ่ที่ประสบปัญหา ด้วยการยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นในบริษัทเหล่านี้ โดยบัฟเฟตต์กล่าวกับกลุ่มผู้ถือหุ้นของเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ว่า ยุทธวิธีของเขาก็คือ "รีบตักตวงเมื่อเห็นคนอื่นตกอยู่ในภาวะตื่นกลัว"
ทอม เคอร์สติง นักวิเคราะห์จากบริษัท Edward Jones & Co.ในรัฐหลุยเซียนา กล่าวว่า "บัฟเฟตต์มีพรรสวรรค์ในการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ทักษะด้านจิตวิทยาการลงทุนของเขาช่วยให้เขามีข้อได้เปรียบในยามที่สถานการณ์เศรษฐกิจผันผวน ซึ่งยากที่จะมีคนทำอย่างเขาได้" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--