แผนการฟื้นฟูวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐที่วุฒิสภาสหรัฐได้ลงคะแนนเสียงรับรองไปด้วยคะแนน 74 ต่อ 25 เสียงนั้น ประกอบด้วยการลดภาษีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการจัดทำสินเชื่อพลังงานทางเลือก และการลดภาษีให้กับธุรกิจและประชาชนทั่วไป
กฎหมายกอบกู้สถาบันการเงินที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะพิจารณาในวันพรุ่งนี้นั้น จะให้อำนาจแก่กระทรวงการคลังเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อเพื่อการจำนองสนับสนุนซึ่งกำลังเป็นภาระต่อสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ แผนที่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภายังมีการเพิ่มประเด็นในส่วนของการตั้งสำรองเงินภาษี เพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมให้สมาชิกพรรครีพับลิกันลงคะแนนเสียงสนับสนุน หลังจากที่แผนฉบับแรกถูกคว่ำไปในการลงคะแนนเสียงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มาตรการด้านภาษีดังกล่าวจะประกอบด้วยการยกการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นในปีนี้กับครัวเรือนชาวอเมริกัน 24 ล้านครัวเรือน การออกสินเชื่อสำหรับการทำวิจัยทางธุรกิจ รวมทั้งการให้เงินจูงใจด้านพลังงานมูลค่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า การนำมาตรการตั้งสำรองมาใช้จะช่วยยุติภาวะชะงักงันในสภาคองเกรสถึงประเด็นการรับมือกับผลกระทบด้านงบประมาณจากการยกเลิกภาษี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมงบดุลของบริษัทต่างๆ เช่น ไมโครซอฟท์ คอร์ป และฮาร์เลย์ เดวิดสัน อิงค์ ซึ่งพึ่งพาการขอสินเชื่อเพื่อการวิจัย รวมทั้งบริษัทที่ผลิตพลังงานจากพลังลมและแสงอาทิตย์
เมดิสัน กรอส กรรมการผู้จัดการสตาร์วู้ด แคปิตอล กรุ๊ป แอลแอลซี กล่าวให้สัมภาษณ์ก่อนที่วุฒิสภาจะลงมติรับรองว่า การพัฒนาแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์จะเดินหน้าไปไม่ได้เลยหากว่ามีปัญหาด้านการขออนุมัติสินเชื่อ โดยต้นทุนสำหรับโครงการวิจัยเหล่านี้มักจะสูงมากกว่าโครงการอื่นๆ หากไม่มีสินเชื่อภาษีเพื่อการลงทุนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนในโครงการต่างๆ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--