น.ส.อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์(ไทย) กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อดูแลการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในภาวะที่การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวจากผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและการบริโภคในประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับหลายประเทศในภูมิภาคนี้
ขณะที่ความกังวลต่อแรงกดดันจากการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อในประเทศได้ผ่อนคลายลงไปมากแล้วในระยะนี้จนถึงปีหน้า โดยเฉพาะราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อไทยได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้วทำให้อนาคตจะเห็นการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 6.4% และ 2.5% ในปีหน้า รวมทั้งมีโอกาสที่จะเห็นตัวเลขเงินเฟ้อที่ 1% ในบางเดือน
“น่าจะเห็นคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ลดดอกเบี้ยในปีหน้าได้ถึง0.75% จาก3.75%ขณะนี้เหลือ3.00% และการลดดอกเบี้ยจะเริ่มเห็นช่วงต้นไตรมาส2 แต่หากเศรษฐกิจแย่มากอาจเห็นตั้งแต่ไตรมาสแรก" น.ส.อุสรา ระบุ
ขณะที่ระยะสั้นจะเห็นการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศประกอบกับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะเป็นแรงกดดันให้ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง โดยคาดว่าเฉลี่ยทั้งปีนี้จะอยู่ 35.50 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าต่อไปเนื่องไปจนถึงปีหน้าโดยเฉลี่ยทั้งปีที่ 36 บาท/ดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--