นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งได้พิจารณาแนวทางการยกร่างกฎหมายการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง โดยจะนำร่างกฎหมายเดิมที่ยกร่างโดยกระทรวงพาณิชย์ในสมัยนายเกริกไกร จีระแพทย์ เป็น รมว.พาณิชย์ และผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วาระ 1 ไปแล้วมาปรับปรุงใหม่ เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนและรัดกุมมากขึ้น
โดยเป้าหมายหลักเพื่อทำให้รายเล็กและใหญ่ทำธุรกิจร่วมกันได้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และไม่เกิดการเอารัดเอาเปรียบกันในธุรกิจ
ทั้งนี้จะแยกประเภทธุรกิจค้าปลีกค้าส่งให้ชัดเจนขึ้นและกำหนดลงไปในกฎหมาย จากเดิมที่จะออกเป็นประกาศกระทรวงแยกประเภทในภายหลัง เพื่อให้การแข่งขันเกิดขึ้นในระดับเดียวกันไม่ใช่ให้ห้างค้าปลีกมาทำธุรกิจแข่งกับห้างค้าส่ง ซึ่งปัจจุบันมีทั้งห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต, ซูเปอร์สโตร์, ดิสเคาน์สโตร์, ดีพาร์ทเมนต์สโตร์, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านสะดวกซื้อ, ห้างขายของเฉพาะอย่าง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงร้านขายปลีกที่บรรทุกรถกระบะ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังจะกำหนดประเภทของสินค้าที่จะขายในห้างค้าปลีกค้าส่งว่าจะมีสินค้าใดบ้าง จะมีเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค หรือรวมสินค้าเฉพาะอย่างเข้าไปด้วย เพราะขณะนี้ห้างค้าปลีกขายสินค้าหลากหลายมากขึ้น
"ต้องทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น อย่างห้างค้าปลีกคือการขายสินค้าโดยตรงให้ผู้บริโภค แต่หากขายสินค้าจำนวนมากให้ผู้บริโภคโดยตรงยังจะเรียกว่าห้างค้าส่งได้หรือไม่ หากไม่กำหนดให้ชัดเจนห้างค้าปลีกก็จะมีทั้งขายปลีกและขายส่งให้ห้างเดียวกัน ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม และโชห่วยก็จะได้รับผลกระทบด้วย โดยต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันตามนโยบายของ รมว.พาณิชย์" นายยรรยง กล่าว
ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากรณีที่ห้างค้าปลีกขยายสาขาจำนวนมากจนกระทบกับโชห่วยนั้น นายยรรยง กล่าวว่า จะขอความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ แก้ไขกฎหมายให้สามารถยับยั้งหรือชะลอการขยายสาขา เช่น ขอความร่วมมือกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้เพิ่มเติมกฎหมายผังเมืองสามารถควบคุมการปรับปรุงอาคารเก่าเพื่อทำเป็นห้างค้าปลีกจากที่ควบคุมเฉพาะการก่อสร้างอาคารใหม่เท่านั้น เพราะขณะนี้ห้างค้างปลีกมักซื้ออาคารเก่ามาปรับปรุงใหม่เพื่อทำเป็นสาขา รวมถึงขอความร่วมมือสำนักงานสิ่งแวดล้อม ให้พิจารณาถึงสิ่งแวดล้อมทางการค้าด้วย นอกจากสิ่งแวดล้อมด้านการจราจร เป็นต้น
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--