นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย(TMB)มองว่า ปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของสหรัฐมีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของไทยปีนี้ไม่มากนัก โดยเชื่อว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย(GDP)ปีนี้ยังโตได้ 4-6% ซึ่งแม้ปัญหาวิกฤติการเงินของสหรัฐฯ จะลุกลามไปถึงยุโรปและญี่ปุ่นแล้ว แต่ไทยจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะได้ปรับตัวมาแล้วตั้งแต่สมัยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 40 ซึ่งเศรษฐกิจไทยมีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีขึ้น
สำหรับแผนกู้วิกฤติการเงินของสหรัฐมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับมาได้ และสถานการณ์ในสหรัฐยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว โดยเฉพาะ Real Sector หรือภาคอสังหาริมทรัพย์
ขณะที่ภาคส่งออกของไทยคงจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐและยุโรปที่จะชะลอตัวลงอย่างมาก ซึ่งจุดนี้รัฐบาลควรเร่งขยายตลาดส่งออกในแถบเอเชียให้ขึ้นมามีบทบาททดแทนตลาดหลักดังกล่าว
แต่ก็คาดว่าการส่งออกปี 52 ไม่น่าจะโตได้ถึง 15% แม้จะขยายตลาดส่งออกไปในกลุ่มเอเชียก็ตาม ซึ่งผู้ส่งออกควรปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์และดูแลความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสม ซึ่งธนาคารพาณิชย์พร้อมจะรับหน้าที่บริหารความเสี่ยงให้แก่ลูกค้า ขณะที่ภาครัฐเองต้องเร่งโครงการลงทุนให้มีความชัดเจนมากขึ้น
นายบุญทักษ์ ยังคาดว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันที่ 8 ต.ค.นี้ กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย(อาร์พี)ไว้ที่ระดับ 3.75% เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง อีกทั้งความเสี่ยงจากแรงกดดันเรื่องอัตราเงินเฟ้อหมดไปแล้ว โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยอาร์พีปีนี้น่าจะทรงตัวอยู่ที่ 3.75% ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายปีหน้านั้นยังไกลเกินกว่าจะคาดการณ์ได้
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--