นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ภัทร(PHATRA)กล่าวในหัวข้อ"ทิศทางการลงทุนในประเทศภายใต้การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจการเงิน"ว่า แม้จะมีมาตรการ 7 แสนล้านดอลลาร์ออกมาช่วยแก้ไขสถานะของสถาบันการเงินสหรัฐ แต่ทางการสหรัฐและยุโรปก็ยังจะต้องมีมาตรการหรือกลไกอื่น ๆ เข้ามาดูแลปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ระยะปานกลางเงินดอลลาร์ยังจะอ่อนค่าลงได้อีก
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวคงไม่ได้ทำให้เงินบาทแข็งค่าไปมากนัก เพราะทางการคงจะต้องเข้ามาดูแลเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายต่อการส่งออกของไทย โดยมองว่าหากเงินบาทแข็งค่าแตะระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ ทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ก็คงจะเข้ามาดูแล
ขณะที่การส่งออกคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดกับประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐ และปัญหาดังกล่าวยังอาจจะทำให้กองทุนต่าง ๆ ของต่างประเทศลดการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ก็จะส่งผลถึงทั้งการลงทุนในตลาดหุ้น และการลงทุนด่านอื่น ๆ ภายในประเทศ รวมทั้งการลงทุนในประเทศก็จะลดลง ท้ายที่สุดเศรษฐกิจโดยรวมก็จะชะลอตัวลง
ส่วนผลกระทบที่มีต่อสภาพคล่องนั้น ขณะนี้ยังไม่จะมีผลมากนัก แต่การที่เอกชนไทยไปกู้เงินระยะสั้นจากต่างประเทศรวมกันประมาณ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ อาจจะมีปัญหาหากต้องกู้เงินบาทเพื่อไปสวอปเป็นดอลลาร์ชำระคืนหนี้ แต่อาจจะส่งผลต่อสภาพคล่องในระยะสั้น
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--