นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.), สมาคมธนาคารไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร.เตรียมเสนอความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วนให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พิจารณาในการหารือนอกรอบวันที่ 8 ต.ค.นี้ รวมทั้งการเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ
นอกจากนี้ การที่มีรัฐบาลแล้วไม่สามารถเดินหน้าโครงการใดๆ ได้เลยจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้รุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีกหากเป็นการใส่เกียร์ว่างจะทำให้เสียโอกาส
ข้อเสนอดังกล่าว ได้แก่ ขยายขอบเขตให้เอกชนเข้าไปมีบทบาทและส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องต่างๆ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในนามของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) เช่น คณะกรรมการโลจิสติกส์, จัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมและผลักดันการเปิดตลาดส่งออกใหม่เพื่อทดแทนตลาดสหรัฐ, สร้างกลไกรองรับวิกฤติการณ์ทางการเงินของโลก, เร่งการใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่ได้จากการจัดทำความตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่น-ไทย(JTEPA), เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้, เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 52 เป็นต้น
ด้านนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า มีความกังวลเกี่ยวกับคำสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวลดลงราว 10-20%, ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ หากลุกลามกว่านี้จะส่งผลให้การลงทุนและการบริโภคชะลอตัวลงไปอีก
ขณะที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า แม้ปัญหาวิกฤติการเงินในสหรัฐจะไม่ส่งผลกระทบทางตรง แต่ก็มีผลกระทบทางอ้อม ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งเข้ามาดูแลเรื่องสภาพคล่อง และจากมาตรการแก้ไขปัญหาก่อนหน้านี้ก็มีส่วนช่วยให้เอกชนไม่ต้องเผชิญปัญหาเร็วเกินไป
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--