ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร หลังนลท.แห่ซื้อดอลล์เหตุวิตกศก.ยุโรปถดถอย

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ปอนด์ และฟรังค์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐและเทขายสกุลเงินที่มีความเสี่ยง รวมถึงสกุลเงินยูโร หลังจากกลุ่มผู้นำยุโรปแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านการเงินที่ลุกลามเข้าไปในยุโรป
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3530 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3769 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับ 1.7445 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.7715 ดอลลาร์/ปอนด์
          ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินฟรังค์ที่ระดับ 1.1465 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1290 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ระดับ 102.08 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 105.30 เยน/ดอลลาร์
          ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.6385 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6605 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7245 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7738 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
           ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศยุโรปได้จัดประชุมสุดยอดวาระพิเศษเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามเข้าสู่ยุโรป โดยมีผู้นำเยอรมนี อังกฤษ อิตาลี นายโฮเซ มานุเอล บาร์รอสโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย โดยการประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสภาคองเกรสสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายฟื้นฟูภาคการเงินฉบับปรับปรุงใหม่วงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ และประธานาธิบดีบุชได้ลงนามผ่านร่างให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการแล้ว
          การประชุมผู้นำยุโรปมีขึ้นหลังจากสถาบันการเงินในยุโรปประสบปัญหา นับตั้งแต่ฟอร์ติส กลุ่มธุรกิจธนาคารและการประกันภัยยักษ์ใหญ่ของกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ (เบลเยี่ยม, เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก)  กลิตนีร์ ธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของไอซ์แลนด์  เด็กเซีย ธนาคารสัญชาติเบลเยียม-ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้นำด้านพันธบัตรเทศบาลในยุโรป 
          ล่าสุด ปัญหาขาดสภาพคล่องก็ได้เกิดขึ้นกับบริษัท ไฮโป เรียล เอสเตท (Hypo Real Estate) สถาบันการเงินด้านการจำนองอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของเยอรมนี จนรัฐบาลเยอรมนี ร่วมกับธนาคารพาณิชย์และบริษัทประกันภายในประเทศ ตกลงจัดตั้งวงเงินกู้ฉุกเฉินเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านยูโร หรือ 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับไฮโป เรียล เอสเตท
          เม็ก บราวน์ นักวิเคราะห์จาก Brown Brothers Harriman กล่าวว่า "วิกฤตการณ์ด้านการเงินลุกลามเข้าสู่ยุโรปแล้ว และยากที่จะยับยั้งได้ในเวลานี้ แม้ผู้นำยุโรปสร้างปรากฏการณ์ด้วยการร่วมมือกันใช้มาตรการกู้วิกฤตก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจยุโรปส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายสกุลเงินยูโร เงินปอนด์ และฟรังค์สวิส"