มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า จีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 5 เท่าภายในช่วงสิ้นปีหน้า และจะเพิ่มงบประมาณการใช้จ่าย เพื่อจำกัดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวิกฤตการเงินโลกที่มีต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน โดยคาดว่า ธนาคารกลางจีนจะลดดอกเบี้ยในแต่ละครั้งลง 0.27% ส่งผลให้อัตรากู้ยืมระยะเวลา 1 ปีอยู่ในระดับต่ำที่ 5.85% ในปีหน้า จากระดับปัจจุบันที่ 7.2% ซึ่งงบประมาการใช้จ่ายของรัฐบาลอาจจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นถึง 3%
บลูมเบิร์กรายงานว่า นายชิง หวาง นักเศรษฐศาสตร์ประจำฮ่องกงของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวลงหลังจากที่แบงค์สหรัฐล้มละลายและรัฐบาลได้ออกมาช่วยเหลือสถาบันการเงิน ส่วนยุโรปเองก็มีอัตรากู้ยืมในตลาดเงินสูงเป็นประวัติการณ์ โดยการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทั้งในยุโรปและสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 40% ของการส่งออกทั้งหมดของจีน ส่งสัญญาณให้เห็นถึงการส่งออกที่ซบเซา กำไรของบริษัทเอกชนที่ตกลง และเงินเฟ้อที่คลายตัวลง
หวางกล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อที่ดีขึ้นช่วยผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่มีต่อนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เราคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพื่อกระตุ้นการขยายตัวในอนาคตอันใกล้นี้ และยังได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อปีหน้าเหลือ 2.5% จากระดับ 4% รวมทั้งลดการประเมินการขยายตัวทางเศรษฐกิจในจีนปีหน้าลงเหลือ 8.2% จากระดับเดิมที่ 9%
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือ 9.8% จากระดับ 10%
ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์ของหวางคือ ธุรกิจอสังหาฯที่ร่วงลงทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้การลงทุนในภาคอสังหาฯตกลงอย่างหนัก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--