โกลด์แมน แซคส์ และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอินเดียอาจลดสัดส่วนเงินสำรองสภาพคล่องที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องฝากไว้กับธนาคารกลางอีกครั้ง หากระบบการเงินของอินเดียได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามมาจากสหรัฐและยุโรป
เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางอินเดียประกาศลดสัดส่วนสำรองสภาพคล่องลงสู่ระดับ 8.5% จากเดิมที่ระดับ 9% โดยให้มีผลบังคับใช้วันที่ 11 ต.ค.ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีเม็ดเงินสดไหลเข้าสู่ระบบการเงินของอินเดียสูงถึง 2 แสนล้านรูปี หรือ 4.2 พันล้านดอลลาร์ ตามมาตรการปกป้องระบบการเงินภายในประเทศหลังจากวิกฤตการณ์การเงินที่มีจุดเริ่มต้นในสหรัฐได้ลุกลามเข้าสู่ยุโรป
ทางการอินเดียวิตกตกังวลว่า ภาวะขาดแคลนสภาพคล่องในระบบการเงินที่ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมข้ามคืนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น จะฉุดตลาดหุ้นอินเดียยทรุดตัวลงและจะถ่วงค่าเงินรูเปียห์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอินเดียจะยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ เพราะตัวเลขเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอยู่ถึง 2 เท่า
"เราคาดว่าธนาคารกลางอินเดียจะลดสัดส่วนเงินสำรองสภาพคล่องลงอีก หากสถานการณ์การเงินทั่วโลกแย่ลง แต่เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อของอินเดียยังแกว่งตัวอยู่ที่ 12% เราจึงคาดว่าธนาคารกลางอินเดียยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้" ทูชาร์ พ็อดดาร์ นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--