นายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะอัดฉีดสภาพคล่องประมาณ 5 หมื่นล้านปอนด์ หรือ 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารของอังกฤษต้องประสบภาวะล้มละลาย โดยแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินอังกฤษประกอบด้วย การเข้าซื้อหุ้นโดยรัฐบาล ส่วนธนาคารกลางอังกฤษก็จะจัดสรรงบประมาณอย่างน้อย 2 แสนล้านปอนด์เพื่อให้แบงค์ใช้กู้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังจะจัดสรรเงินรับประกันประมาณ 2.5 แสนล้านปอนด์ เพื่อใช้ในการรีไฟแนนซ์หนี้
นายอลิสแตร์ ดาร์ลิง รัฐมนตรีคลังอังกฤษ กล่าวว่า การดำเนินการเพื่อยึดกิจการแบงค์ส่วนหนึ่งเป็นของรัฐนั้นเป็นการดำเนินการที่จะเป็นเพื่อที่แบงค์ต่างๆกลับมาได้ทำงานได้ตามปกติ ทั้งในการเงินการจัดหาเงินสดและการลงทุนสำหรับครัวเรือนและภาคธุรกิจ
บลูมเบิร์กรายงานว่า วิกฤตสินเชื่อที่ย่ำแย่ลงทำให้อังกฤษต้องร่วมมือกับสหรัฐ ไอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ เบลเยียม และสเปนในการใช้มาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงิน เพื่อช่วยแบงค์ขนาดใหญ่ของประเทศไว้ โดยธนาคารโรยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ กรุ๊ป และเอชบีโอเอส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอังกฤษมีมูลค่าในตลาดลดลงมากกว่าครึ่งแล้วในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้นักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นเรื่องคยวามสามารถในการระดมทุนของธนาคาร
รัฐบาลอังกฤษยังจะจัดหางบประมาณ 2.5 หมื่นล้านปอนด์ในรูปของหุ้นและเตรียมพร้อมอัดฉีดงบอีก 2.5 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งจำนวนเงินที่อัดฉีดเข้าธนาคารแต่ละแห่งจะแตกต่างกันไป และขึ้นอยู่กับการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนของธนาคาร นโยบายการจ่ายเงินผู้บริหาร และยังจะกำหนดให้ธนาคารปล่อยกู้แก่ธุรกิจรายเล็กๆและเจ้าของบ้าน
ธนาคารอาร์บีเอส บาร์เคลย์ส ลอยด์ ทีเอสบี กรุ๊ป และธนาคารอีก 3 รายของอังกฤษจำเป็นต้องจ่ายหนี้สินมูลค่าถึง 5.4 หมื่นล้านปอนด์ภายในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. 2552 เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมอยู่ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ และแบงค์ต่างๆก็ลังเลที่จะปล่อยกู้ซึ่งกันและกัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--