นายสมชัย สัจจพงษ์ โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือน ก.ย.51 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2551 มีทั้งสิ้น 126,232 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 31,830 ล้านบาท คิดเป็น 33.7% เนื่องจากการยื่นชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมรอบครึ่งปีบัญชี 51 เหลื่อมเดือน ส่งผลให้การเก็บภาษีเงินได้ทั้งสองประเภทสูงกว่าเป้าหมาย แต่การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีน้ำมัน ต่ำกว่าเป้าหมายเนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ และ 6 มาตรการ 6 เดือน
ทั้งนี้ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2551 มีทั้งสิ้น 1.547 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 52,220 ล้านบาท คิดเป็น 3.5% โดยกรมสรรพากรจัดเก็บรายได้รวมกว่า 1.276 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 67,280 ล้านบาท คิดเป็น 5.6% จากการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย แต่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจเฉพาะ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เพราะได้รับผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 278,303 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 14,497 ล้านบาท คิดเป็น 5% โดยภาษีสรรพสามิตรถยนต์ จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย แต่ภาษีน้ำมัน ยาสูบ และเบียร์ จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย, กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 99,602 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสาร 11,802 ล้านบาท คิดเป็น 13.4% เป็นผลจากการขยายตัวของมูลค่านำเข้า ทำให้จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงกว่าเป้าหมาย
ส่วนการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจมีทั้งสิ้น 101,430 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,780 ล้านบาท คิดเป็น 2.8% โดย บมจ.ปตท.(PTT), สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ บมจ.กสท โทรคมนาคม นำส่งรายได้มากที่สุด ส่วนหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ นำส่งรายได้ 84,203 ล้านบาท ใกล้เคียงประมาณการ
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลปีงบประมาณ 51 ที่เป็นไปตามเป้าหมาย เป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--