นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) นอกรอบในวันนี้แสดงความเป็นห่วงต่อผลกระทบจากวิกฤติการเงินในสหรัฐและสหภาพยุโรปที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสภาพคล่องในประเทศหากมีการไหลออกของเงินทุน โดยรัฐบาลจะเข้าไปดูแลเรื่องการหมุนเวียนสินเชื่อและสภาพคล่องให้แก่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการรองรับผลผลิตทางการเกษตรที่จะออกมาในช่วง 3 เดือนนี้
"สิ่งที่ กรอ.มีความเป็นห่วงร่วมกัน คือ เรื่องของสภาพคล่องที่ต้องป้องกันไม่ให้ไหลออกไปหลังเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะพยายามดูแลสินเชื่อในช่วง 3 เดือนนี้ให้มีหมุนเวียนเพียงพอ" นายโอฬาร กล่าวภายหลังการประชุม
นายโอฬาร กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีการหารือถึงแผนพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคใต้(เซาเทิร์นซีบอร์ด) รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และภาคเอกชนยังเสนอให้รัฐบาลหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เพื่อลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยอีกด้วย นอกจากนี้ ภาครัฐและเอกชนจะร่วมทีมไทยแลนด์เดินทางโรดโชว์ต่างประเทศเพื่อขยายตลาดส่งออก-ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว
สำหรับคณะกรรมการ กรอ.ชุดใหม่นั้นคณะรัฐมนตรีจะมีคำสั่งแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ต.ค.นี้ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ด้านนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) กล่าวว่า แผนพัฒนาพื้นที่เซาเทิร์นซีบอร์ดเบื้องต้นได้กำหนดประเภทของอุตสาหกรรมที่จะลงทุนในแต่ละจังหวัด เช่น จ.ชุมพร เป็นอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ, ชายทะเลฝั่งอันดามัน เน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว, จ.นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เน้นภาคเกษตรกรรม ส่วนพื้นที่ชายแดนภาคใต้จะเน้นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและพลังงานทางเลือก
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--