นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะถดถอยโดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะหดตัวลงไปอยู่ที่ 0.2% ต่อปีในไตรมาสที่สาม และอยู่ที่ 0.8% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยดูจากปัจจัยชี้นำทางเศรษฐกิจ 4 ประการของสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติซึ่งประกอบด้วยตัวเลขจ้างงาน อัตราการผลิต รายได้ และยอดขายสินค้า
การขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มซบเซาลง เนื่องจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ขยายตัวมายาวนานได้ประสบภาวะชะงักงัน ขณะที่ชาวอเมริกันกำลังอยู่ในภาวะที่ตลาดเงินเลวร้ายครั้งรุนแรงนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และตัวเลขว่างงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหลังจากที่แบงก์ชาติชั้นนำทั่วโลกร่วมมือกันลดดอกเบี้ยไปเมื่อวานนี้
"ธนาคารกลางเหล่านี้ดำเนินมาตรการรับมือที่รวดเร็วเพื่อหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ต่างๆให้ดีขึ้นโดยเร็ว" เคน โกลสเตน นักวิเคราะห์จากสำนักงานคอนเฟอร์เรนซ์บอร์ดกล่าว "ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ธนาคารกลางต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อให้สถานการณ์ความเลวร้ายคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะสกัดกั้นมิให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง"
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความผันผวนในตลาดเงินจะจุดชนวนให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยยาวนานที่สุดในรอบ 30 ปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--