นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคาร แห่งประเทศไทย(ธปท.) ยอมรับว่าสภาพคล่องส่วนเกินในระบบมีแนวโน้มปรับลดลงในช่วงปลายปีนี้ แม้จะไม่ได้ลดลงไปอยู่ในระดับที่น่าตกใจ เพราะขณะนี้สภาพคล่องส่วนเกินยังมีอยู่มาก จึงน่าจะทำให้ดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์อยู่ในช่วงขาขึ้น
"สภาพคล่องที่เห็นเป็นทั้งระบบของทุกแบงก์รวมกัน การเปลี่ยนแบงก์นั้นมาแบงก์นี้ไม่ได้ให้สภาพคล่องโดยรวมเปลี่ยนไป แต่อาจทำให้สภาพคล่องของธนาคารบางแห่งลดลง บางแห่งเพิ่มขึ้น ดังนั้น แบงก์ที่ฐานเงินลดลง อาจคิดว่ามาร์เก็ตแชร์ลดลง ลูกค้าหนีไปธ.อีกแห่งจึงต้องออกเพ็จเกจเงินฝากต่างๆ จูงใจลูกค้า"นางผ่องเพ็ญ กล่าว
ขณะนี้สภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ยังไม่มีปัญหา โดยมีสภาพคล่องส่วนเกินกว่า 1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 3.7 เท่าจากที่ทางการกำหนด แต่หากเทียบจากช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.สภาพคล่องในระบบมีมากถึง 4 เท่า และช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. สภาพคล่องเริ่มลด ลงอย่างชัดเจน ทำให้มองว่ามีแนวโน้มที่สภาพคล่องจะลดลงได้อีกในช่วงทีเหลือของปี
สถานการณ์วิกฤติของสถาบันการเงินต่างประเทศ ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกรรมการปล่อยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทย โดยภาพรวมการกู้เงินใน Interbank ยังเป็นปกติ สะท้อนว่าธนาคารพาณิชย์ไทยและสาขาธนาคารต่างประเทศในไทยยังมีความเชื่อมั่นต่อกัน แม้บริษัทแม่ในต่างประเทศจะมีปัญหา แต่สถานะของสาขาในไทยยังไม่ได้รับผลกระทบ แม้ว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นางผ่องเพ็ญ ยอมรับว่า กระแสข่าวจากภายนอกอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและผู้ลงทุนได้ ซึ่งผลทางจิตวิทยาที่อาจเกิดความเข้าใจผิดในบางเรื่องและนำไปสู่ผลร้ายแรง ดังนั้น ธนาคารพาณิชย์คงต้องทำความเข้าใจกับลูกค้าถึงสถานะของธนาคาร เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก
"ข่าวจากภายนอกต้องระวัง เพราะแต่ละแบงก์มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ข่าวที่ออกมาอาจมีผลต่อคู่ค้าบางราย ที่จะลดวงเงินลงกู้ แต่ธนาคารอีกหลายแห่งที่ไม่น่ามีปัญหา ทั้งนี้รวมไปถึงการทำความเข้าใจกับลูกค้าด้วย ไม่ให้ตื่นตกใจกับข่าวจากต่างประเทศ"นางผ่องเพ็ญ กล่าว
นางผ่องเพ็ญ กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารพาณิชย์บางแห่งที่เร่งระดมเงินฝากในระยะนี้ โดยบางแห่งออกตั๋วบี/อีให้ดอกเบี้ยสูง 5.5% ว่า เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามีความจำเป็นในการหาสภาพคล่องมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเรื่องนี้ทางการต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ลงทุนถึงความเสี่ยงที่มี เพราะตราสารบางประเภท เช่น ตั๋วบี/อี รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกัน ดังนั้น ผู้ลงทุนต้องชั่งน้ำหนัก ระหว่างผลตอบแทนที่ได้รับสูงกับความเสี่ยงที่มี
อนึ่ง เมื่อเร็วๆนี้ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย)ฯ ร่วมมือ ธนาคารทหารไทย(TMB)เปิดโครงการ TMB BUDDY B/E + LTF เป็นการออมในรูปตั๋วแลกเงิน(บี/อี ) อายุ 3 เดือน ดอกเบี้ย 5.50 % ต่อปี โดยลูกค้าต้องลงทุนคู่กับกองทุนLTFของ บลจ.ไอเอ็นจีฯ ในจำนวนที่เท่ากัน ขั้นต่ำประเภทละตั้งแต่ 50,000-500,000 บาท เป็นโครงการระยะ 3 เดือน ตั้งแต่ 1 ต.ค.-30 ธ.ค.51
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--