รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศจี7 ประชุมร่วมกันในวันนี้เพื่อหาทางยุติวิกฤตสินเชื่อซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจโลก
ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางหลายแห่งได้ประกาศลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและรัฐบาลหลายประเทศได้เทคโอเวอร์ธนาคารที่กำลังล้มละลายเพื่อบรรเทาความวุ่นวายในตลาด อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวกลับไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่งผลให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายต้องหานโยบายอื่นมาใช้เพิ่มเติม
"คณะกรรมการกำหนดนโยบายทั่วโลกกำลังอยู่ในสภาพหลังชนฝา" มาร์โก อันนันเซียตา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Unicredit MIB ในลอนดอน กล่าว "ดังนั้นพวกเขาอาจใช้มาตรการที่หนักหน่วงในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"
กลุ่มรัฐมนตรีและผู้ว่าการธนาคารกลางที่เดินทางมาประชุม ณ กรุงวอชิงตันยังไม่มียุทธศาสตร์ที่น่าพอใจในการรับมือกับวิกฤตที่เกิดขึ้น ซึ่งสภาพการณ์เช่นนี้อาจส่งผลให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก
โดย เฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มีแผนซื้อหุ้นในสถาบันการเงิน, อลิสแตร์ ดาร์ลิง รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ต้องการให้มีการรับประกันการปล่อยกู้ ด้าน เพียร์ สไตน์บรูค รัฐมนตรีคลังเยอรมนี กำลังผลักดันให้มีการควบคุมการปล่อยกู้ให้เข้มงวดกว่าเดิม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากสหรัฐ ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และอิตาลี ประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรกหลังเกิดวิกฤตการเงินในสหรัฐเมื่อเดือนที่แล้วและลุกลามไปยังประเทศอื่นทั่วโลก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--