นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า สหรัฐอาจมียอดขาดดุลการค้าลดลงในเดือนส.ค. เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าน้ำมันลดลงหลังราคาน้ำมันร่วง
ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 69 ท่านซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐอาจลดลงเหลือ 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. จาก 6.22 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ในขณะเดียวกันรายงานอีกฉบับอาจเผยว่าราคาสินค้านำเข้าจากต่างประเทศลดลงต่อเนื่อง
วิกฤตการเงินที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ กดดันให้ผู้บริโภคและภาคเอกชนในสหรัฐต้องลดการใช้จ่ายลง ซึ่งหมายความว่าอุปสงค์สินค้าทุกประเภทและการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศจะลดลงอีก ในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจโลกที่ซบเซาก็ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของสหรัฐ ส่งผลให้การรักษาสมดุลระหว่างยอดขาดดุลการค้าและยอดเกินดุลการค้าเป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ตาม "ยอดขาดดุลการค้าอาจลดลงมากเนื่องจากราคาน้ำมันลดลง" เจมส์ โอซัลลิแวน นักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงจาก ยูบีเอส ซีเคียวริตี้ แอลแอลซี ในคอนเน็กติกัต กล่าว "ภาคการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นในอนาคต แม้ว่าจะไม่มากเท่าในอดีตก็ตาม"
กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดเปิดเผยยอดขาดดุลการค้าอย่างเป็นทางการ ณ เวลา 8.30 น.ตามเวลาวอชิงตัน โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดขาดดุลจอยู่ที่ราว 5.1 - 6.35 หมื่นล้านดอลลาร์
ในเวลาเดียวกัน กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยมูลค่าการนำเข้าสินค้า ซึ่งอาจลดลง 2.8% ในเดือนก.ค. หลังจากที่ลดลง 3.7% ในเดือนมิ.ย. โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะหดตัวราว 0.4 - 4.4%
ในเดือนส.ค.ราคาน้ำมันดิบนิวยอร์กอยู่ที่ราว 116.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงจาก 133.77 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนก.ค. ซึ่งหมายความว่ามูลค่าการนำเข้าน้ำมันต้องลดลงด้วย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--