ธ.กลางอินเดียประกาศลดเพดานกันสำรองเงินสดแบงก์พาณิชย์ลงสู่ระดับ 7.5%

          ตัวเลขเพดานกันสำรองเงินสดของธนาคารพาณิชย์ในอินเดียร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544 หลังจากที่สกุลเงินรูปีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และอัตราเงินกู้พุ่งสูงขึ้นเป็น 2 เท่า
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางอินเดียได้ปรับลดสัดส่วนกันสำรองเงินสดของธนาคารพาณิชย์ลงสู่ระดับ 7.5% จากเดิมที่ 9% ซึ่งจะมีผลในวันพรุ่งนี้ และจะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารเป็นเงิน 6.00 แสนล้านรูปี (1.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)   
          ธนาคารกลางแถลงว่า "สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกเลวร้ายลงเรื่อยๆ ดังนั้น ธนาคารจึงต้องออกมาตรการนี้ขึ้นมาเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินภายในประเทศซึ่งจะช่วยบรรเทาแรงกดดันจากปัจจัยทางการเงินทั่วโลกที่ย่ำแย่"
          ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด), ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี), ธนาคารกลางจีน และธนาคารกลางประเทศอื่นๆได้พากันปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้เพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยธนาคารอาจไม่ปรับลดดอกเบี้ยเนื่องจากมีความวิตกกังวลว่า สกุลเงินที่อ่อนค่าลงในขณะนี้จะยิ่งทรุดตัวลงอีก 
          "นโยบายลดสัดส่วนสำรองเงินสดของธนาคารครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะแก้ปัญหาสภาพคล่องในตลาดทุนและตลาดเงินที่ร่วงลงอย่างรุนแรง" นักวิเคราะห์จากสถาบัน Institute of Economic Growth ในนิวเดลีกล่าว "แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้สกุลเงินในประเทศเผชิญความเสี่ยงว่าจะอ่อนค่าลงอีก" 
          ด้านรัฐมนตรีคลังอินเดียเปิดเผยว่า "เราบอกได้เลยว่า ปัญหาหลักคือเรื่องของสภาพคล่อง แต่ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า เราจะแก้ปัญหานี้และจะหามาตรการต่างๆเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบมากขึ้นตามความจำเป็น"