ค่าเงินยูโรแข็งค่าสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์และเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ (13 ต.ค.) หลังจากบรรดาผู้นำชาติยุโรปเห็นพ้องที่จะรับประกันเงินกู้ยืมระหว่างธนาคารพาณิชย์และหามาตรการสกัดกั้นมิให้ผู้ปล่อยกู้รายใหญ่ประสบภาวะล้มละลาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 07.53 น. ตามเวลาท้องถิ่น เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 1.6% แตะที่ระดับ 1.3618 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับที่พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. จากระดับ 1.3408 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา และแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 137.08 เยนต่อยูโร จากระดับ 134.96 เยนต่อยูโร
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์พุ่งขึ้นเช่นกัน หลังจากที่รัฐบาลประกาศมาตรการค้ำประกันเงินฝาก โดยเงินดอลลาร์ออสเตรเลียถีบตัวขึ้น 5.7% แตะที่ 67.99 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 2.8% แตะที่ 61.12 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นขณะที่บรรดาผู้นำ 15 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรร่วมกันให้คำมั่นว่า จะรับประกันหนี้เสียล็อตใหม่ของภาคธนาคารไปจนถึงปีหน้า ซึ่งอนุญาติให้รัฐบาลเข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์และจะดำเนินการปฏิรูประบบเงินทุนเพื่อลดแรงตึงเครียดในตลาดที่กำลังเผชิญวิกฤตขั้นรุนแรง
"ชาติยุโรปกำลังหาหนทางที่จะทำให้ภาคธุรกิจการเงินฟื้นตัวขึ้น" อเล็กซ์ ซินตัน นักวิเคราะห์จาก ANZ National Bank กล่าว "ตลาดเชื่อว่า เงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันจันทร์นี้เนื่องจากผลการประชุมเมื่อสุดสัปดาห์เป็นความเคลื่อนไหวที่ส่งปัจจัยหนุนให้กับสกุลเงินยูโร"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--