มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ธนาคารได้รับเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิมจากมอร์แกน สแตนลีย์ โดยเงื่อนไขการลงทุนมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ที่ดีขึ้นนี้ ประกอบด้วยการได้ผลตอบแทยต่อปีเพิ่มอีก 300 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่หุ้นของมอร์แกนร่วงลง
การอัดฉีดเงินทั้งหมดจะทำให้มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซึ่งถือหุ้นอยู่ในมอร์แกน สแตนลีย์ อยู่ 21% นั้น อัดฉีดเงินเข้าไปในรูปของหุ้นบุริมสิทธิ์ที่จ่ายผลประโยชน์ 10% ภายใต้ข้อตกลงเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จะได้รับหุ้นบุริมสิทธิ 6 พันล้านหุ้น และหุ้นสามัญ 3 พันล้านหุ้น
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซึ่งได้เจรจาต่อรองเรื่องเงื่อนไขอีกครั้ง หลังจากที่หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 60% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ข้อตกลงใหม่นี้มีลักษณะที่ใกล้เคียงกับข้อตกลงที่วอร์เรน บีฟเฟตต์ อภิมหาเศรษฐีได้ทำไว้กับโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป เพียง 1 วัน หลังจากที่ได้มีการประกาศข่าวการลงทุนของมิตซูบิชิ ส่งผลให้มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนต่อปีมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์
มาซาฟูมิ โอชิเดน ผู้จัดการกองทุนของแบล็คร็อค ซึ่งดูแลสินทรัพย์มูลค่ามากกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์นั้น กล่าวว่า ผลประโยชน์ตอบแทน 10% สำหรับสถาบันการเงินของญี่ปุ่นนั้นถือว่าเป็นข้อเสนอที่ดี เราหวังว่าข้อตกลงนี้จ่วยมอร์แกน สแตนลีย์ได้จริงๆ เพื่อที่จะได้ไม่ล้มละลาย
ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา MUFG ตัดสินใจซื้อหุ้นสามัญของมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งมีมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ และลงทุนเพิ่มเติมอีก 6 พันล้านดอลลาร์ผ่านการซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้ในภายหลัง
วันนี้ หุ้นของมิตซูบิชิ ยูเอฟจ พุ่ง 10% ในตลาดหุ้นโตเกียวเมื่อเวลา 11.00 น. ส่วนหุ้นซูมิโตโม มิตซุย ไฟแนนเชียล กรุ๊ป พุ่ง 17%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--