นางเซติ อัคตาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียกล่าวว่า มาเลเซียพร้อมที่จะหันมาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มลดลงแล้ว และคาดว่าเศรษฐกิจมาเลเซียจะขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 8 ปี
"สิ่งที่เราให้ความสำคัญในขณะนี้คือการปกป้องเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัวลงรุนแรง มาเลเซียมีศักยภาพสูงพอที่จะทำให้เป้าหมายด้านการคลังประสบความสำเร็จและใช้มาตรการด้านอื่นๆในการสกัดกั้นเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย" นางเซติกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่กรุงวอชิงตัน
นางเซติคาดว่า เศรษฐกิจมาเลเซียจะขยายตัวเพียง 4% ในปีหน้า ส่วนในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวราว 5-5.5% ซึ่งต่ำกว่าที่ประเมินไว้เบื้องต้นที่ 5.7% ในด้านเงินเฟ้อนั้น นางเซติกล่าวว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อภายในประเทศกำลังลดน้อยลงเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาเชื้อเพลิงปรับตัวลดลง โดยคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) จะขยายตัวโดยเฉลี่ยราว 5.5-6% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้น และคาดว่าจะขยายตัวต่ำกว่าระดับ 4% ก่อนไตรมาสสองของปีหน้า
นอกจากนี้ นางเซติกล่าวว่า ธนาคารกลางมาเลเซียไม่ได้วางแผนที่จะใช้มาตรการเข้มงวดในระบบการเงิน เพื่อตอบสนองวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางยังคงพิจารณาเรื่องความจำเป็นในการปฏิรูประบบการเงิน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของนางเซติส่งผลให้ค่าเงินริงกิตร่วงลงถึง 0.5% แตะที่ระดับ 3.5127 ริงกิต/ดอลลาร์