นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 51 (ต.ค.50-ก.ย.51) รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,549,605 ล้านบาท สูงกว่าปีงบประมาณก่อน 104,887 ล้านบาท หรือ 7.3% โดยภาษีที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นในอัตราสูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม เป็นต้น รวมถึงการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น
ด้านการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 1,633,347 ล้านบาท สูงกว่าปีงบประมาณที่แล้ว 58,381 ล้านบาท หรือ 3.7% แบ่งเป็น รายจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบัน 1,532,421 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้ว 4.2% คิดเป็นอัตราการเบิกจ่าย 92.3% ของวงเงินงบประมาณ(1,660,000 ล้านบาท) ต่ำกว่าปีที่แล้วซึ่งมีอัตราการเบิกจ่าย 93.9% ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 100,926 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 3.1%
ขณะที่ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 78,746 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 83,742 ล้านบาท และการเกินดุลเงินนอกงบประมาณ 4,996 ล้านบาท ทั้งนี้รัฐบาลชดเชยการขาดดุลดังกล่าวโดยการออกพันธบัตร และตั๋วสัญญาใช้เงินรวม 165,000 ล้านบาท เต็มวงเงินการชดเชยการขาดดุลที่ตั้งไว้
นายสมชัย กล่าวว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด เดือนก.ย.51 รัฐบาลเกินดุลเงินสด 88,612 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีงบประมาณ 51 รัฐบาลขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 78,746 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 165,000 ล้านบาท เนื่องจากการจัดเก็บรายได้บรรลุผลเกินเป้าหมายโดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 83,742 ล้านบาท ส่วนดุลเงินนอกงบประมาณเกินดุล 4,996 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในเดือน ก.ย.51 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 201,818 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 22,390 ล้านบาท หรือ 12.5% เนื่องจากมีรายได้จากภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมรอบครึ่งปีบัญชี 51 ที่เหลื่อมมาจากเดือนส.ค.51 ประกอบกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และอากรขาเข้าที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 149,799 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 1,090 ล้านบาท คิดเป็น0.7% เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของงบอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนต่างๆ
จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาล ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนก.ย.51 เกินดุล 52,019 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 36,593 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการออกตั๋วเงินคลังสุทธิจำนวน 27,000 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดเกินดุลจำนวน 88,612 ล้านบาท นอกจากนี้รัฐบาลได้กู้เงินด้วยการออกพันธบัตรจำนวน 664 ล้านบาท เพื่อรักษาความต่อเนื่องของการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ทั้งนี้ การกู้เงินดังกล่าวอยู่ภายใต้วงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล