ผลการสำรวจความคิดเห็นซึ่งจัดทำโดยบลูมเบิร์ก/ลอสแองเจลิส ไทม์ส บ่งชี้ว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่รอคอยรัฐบาลที่มีฝีมือชุดใหม่ในการนำพาประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์การเงิน
ผลสำรวจซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 ต.ค. ระบุว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมาตรการฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ซึ่งแตกต่างจากผลสำรวจในเดือนก.ย.ที่ระบุว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลสหรัฐไม่มีหน้าที่ใช้งบประมาณเข้าซื้อหนี้เสียของสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา นอกจากนี้ผลการสำรวจครั้งหลังสุดบ่งชี้ว่า ชาวอเมริกันขานรับมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเจ้าของบ้านที่เสี่ยงต่อการถูกธนาคารยึดบ้าน
นอกจากนี้ ผลสำรวจบ่งบอกว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่รอคอยรัฐบาลชุดใหม่ที่มีฝีมือในการนำพาเศรษฐกิจประเทศให้รอดพ้นจากภาวะถดถอย
เมื่อวานนี้ รัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูระบบการเงินเบื้องต้นมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการฟื้นฟูมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยรัฐบาลจะใช้เม็ดเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธ์ของ 9 ธนาคารยักษ์ใหญ่ ได้แก่ ธนาคารซิตี้กรุ๊ป, ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, แบงค์ ออฟ อเมริกา, โกลด์แมน แซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์, สเตทสตรีท คอร์ป,แบงค์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป และเมอร์ริล ลินช์
นอกจากนี้ บุชจะเสนอมาตรการฟื้นฟูระบบการเงินเฟสที่ 2 คิดเป็นมูลค่า 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อให้สภาคองเกรสได้พิจารณาลงมติต่อไป สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน