ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร แต่นักลงทุนยังหวั่นปัญหาในภาคการเงิน

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 16, 2008 07:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรเป็นวันแรกในรอบ 7 วัน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่ามาตรการฟื้นฟูภาคการเงินเบื้องต้นมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์อาจไม่มากพอที่จะแก้ปัญหาในภาคการเงินได้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3492 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.3622 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับ 1.7285 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.7408 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 100.02 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 102.18 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1330 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1361 ฟรังค์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.6618 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.6998 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.6005 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6186 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

แม้ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร แต่บรรยากาศการซื้อขายยังคงซบเซา เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจในมาตรการฟื้นฟูภาคการเงินที่รัฐบาลสหรัฐประกาศใช้

รัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูระบบการเงินเบื้องต้นมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการฟื้นฟูมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยรัฐบาลจะใช้เม็ดเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธ์ของ 9 ธนาคารยักษ์ใหญ่ ได้แก่ ธนาคารซิตี้กรุ๊ป, ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, แบงค์ ออฟ อเมริกา, โกลด์แมน แซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์, สเตทสตรีท คอร์ป,แบงค์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป และเมอร์ริล ลินช์

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ร่วงลง 1.2% แตะระดับ 3.755 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีพ.ศ.2548 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.7% ขณะที่รายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคส่วนใหญ่ของสหรัฐยังคงชะลอตัวลงเนื่องจากปัญหาในตลาดการเงินและปัญหาด้านสินเชื่อที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากการที่ เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดประเมินว่า ภาวะ เศรษฐกิจสหรัฐยังคงซบเซา และย้ำถึงความเสี่ยงที่เกิดจากภาวะผันผวนในตลาดสินเชื่อ ซึ่งการแสดงความเห็นที่สมาคมเศรษฐกิจในกรุงวอชิงตันครั้งนี้ ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ