เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจในกรุงวอชิงตันว่า มาตรการฟื้นฟูเสถียรภาพในตลาดการเงินและคลี่คลายวิกฤตสินเชื่อที่รัฐบาลสหรัฐนำมาใช้นั้น อาจยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีดตัวขึ้นในทันที
"การสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงินถือเป็นย่างก้าวที่สำคัญ ซึ่งแม้ว่าตลาดจะมีเสถียรภาพตามที่เราคาดหวัง แต่ผมคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะยังไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมให้ฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงอ่อนแอและตลาดการเงินยังคงผันผวนหนัก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคเอกชนถดถอยลง และจะฉุดรั้งเศรษฐกิจโดยรวมให้ชะลอตัวลงด้วย" เบอร์นันเก้กล่าว
เบอร์นันเก้ยังกล่าวด้วยว่า "นโยบายการเงินเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐได้ แต่เฟดจะยังคงใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีในการกระตุ้นตลาดให้ทำงานตามกลไกปกติและกระตุ้นสภาพคล่องให้หมุนเวียนอย่างเพียงพอ ผมเชื่อว่าวิกฤตสินเชื่อจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อนักลงทุนและภาคเอกชนกลับมามีความเชื่อมั่นเหมือนเดิม"
"แนวโน้มเศรษฐกิจในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้าจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตลาดการเงินและตลาดสินเชื่อว่าจะกลับมาทำงานได้ตามกลไกปกติหรือไม่" เบอร์นันเก้กล่าว
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูระบบการเงินเบื้องต้นมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการฟื้นฟูมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยรัฐบาลจะใช้เม็ดเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธ์ของ 9 ธนาคารยักษ์ใหญ่ ได้แก่ ธนาคารซิตี้กรุ๊ป, ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, แบงค์ ออฟ อเมริกา, โกลด์แมน แซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์, สเตทสตรีท คอร์ป,แบงค์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป และเมอร์ริล ลินช์
มาตรการฟื้นฟูระบบการเงินเบื้องต้นมูลค่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์ของสหรัฐมีขึ้นหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ร่วมกับกลุ่มประเทศ G7 ประกาศใช้มาตรการต้านวิกฤตการเงินทั่วโลก และพร้อมที่จะดำเนินการทุกด้านเพื่อช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหา ซึ่งครอบคลุมถึงการใช้เครื่องมือทั้งหมดที่สามารถหามาได้ เพื่อสนับสนุนสถาบันการเงินที่มีความสำคัญในเชิงระบบ และป้องกันไม่ให้สถาบันการเงินเหล่านี้ล้มละลาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ส่งผลให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากที่เฟดประกาศลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.5% เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมกับธนาคารกลางแห่งอื่นๆทั่วโลก