เกาหลีใต้กำลังเผชิญแรงกดดันในการค้ำประกันหนี้สินของธนาคารพาณิชย์ หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ขู่ว่าอาจปรับลดอันดับเครดิตกลุ่มสถาบันปล่อยเงินกู้รวมถึงธนาคารกุ๊กมินแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารายใหญ่ที่สุดในประเทศ
S&P ระบุในรายงานที่เผยแพร่วานนี้ว่า มีความเป็นไปได้กว่า 50% ที่เงินทุนซึ่งปรากฏอยู่ในรูปสกุลเงินต่างประเทศของบรรดาธนาคารพาณิชย์ในเกาหลีใต้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตสินเชื่อทั่วโลก ขณะที่ในวันนี้ เงินวอนดิ่งลงหนักที่สุดนับตั้งแต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้มอบเงินช่วยเหลือในเดือนธ.ค.2540 ขณะที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลงเช่นกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กลุ่มชาติยุโรป รวมถึงฮ่องกงและออสเตรเลียต่างใช้มาตรการรับประกันหนี้สินของธนาคารเพื่อให้สถาบันเหล่านี้สามารถออกเงินกู้ให้กันได้ท่ามกลางวิกฤตการเงินที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ขณะที่คัง ชัง วอน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของธนาคารกุ๊กมิน แบงก์ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลรับประกันเงินกู้ในอินเตอร์แบงค์
"เกาหลีใต้ต้องใช้มาตรการบางอย่างที่สอดคล้องกับประเทศอื่นๆ หากต้องการที่จะคลายความวิตกกังวลของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ" คิม ซัง ควอน นักวิเคราะห์จาก Hanwha Investment Trust Management Co.กล่าว "หากวิกฤตสภาพคล่องยังคงเกิดขึ้นต่อไป โครงสร้างพื้นฐานของระบบธนาคารก็จะเริ่มได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุโดยอ้างคำกล่าวของนายคัง มาน ซู รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ว่า เกาหลีใต้อาจกำหนดมาตรการรับประกันเงินกู้ยืมของธนาคารต่างประเทศเท่าที่จำเป็น ซึ่งขณะนี้ธนาคารพาณิชย์มีตัวเลขหนี้สินที่ปรากฏอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ 2.353 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านกระทรวงคลังเปิดเผยว่า เกาหลีใต้มีหนี้นอกประเทศทั้งสิ้น 1.75 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐที่ครบกำหนดชำระในสิ้นเดือนมิ.ย.2552 ซึ่ง 58% ในจำนวนนี้เป็นของธนาคารต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจในเกาหลีใต้ ขณะที่ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของเกาหลีใต้ในเดือนส.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปีนี้เงินวอนอ่อนค่าลง 18% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ