นายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะ ของญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐต้องเร่งขยายแผนให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง มิเช่นนั้นอาจเกิดผลเสียหลายอย่างตามมา ซึ่งอาจรวมถึงการที่มูลค่าหุ้นร่วงลงอย่างหนักด้วย
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์บุชเพิ่งประกาศว่าจะทุ่มงบ 250 ล้านดอลลาร์ซื้อหุ้นของสถาบันการเงินหลายพันแห่งเพื่อป้องกันมิให้เข้าสู่ภาวะล้มละลาย
"หลายคนคิดว่าเงินแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น" นายอาโสะกล่าวต่อรัฐสภา "สหรัฐต้องอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอีกโดยเร็วที่สุด"
"เหตุการณ์เมื่อปี พ.ศ.2540-2541 สอนให้เรารู้ว่าหากเราไม่รีบดำเนินการโดยเร็ว ความเสียหายก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ" นายอาโสะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นอัดฉีดเม็ดเงิน 12.4 ล้านล้านเยน (1.24 แสนล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบธนาคารช่วงปี พ.ศ.2541-2546 เพื่อช่วยเคลียร์หนี้เสียจากช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิ 225 ของญี่ปุ่นร่วงหนักกว่า 9.6% เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังสหรัฐเปิดเผยว่ายอดค้าปลีกปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังถดถอยลงเรื่อยๆ ด้านดัชนี Standard & Poor's 500 ก็ร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2530