นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว่า ยอดขายตลาดรถยนต์ในประเทศเดือน ก.ย.51 ลดลง 10.5% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยมีปริมาณการขายทั้งหมด 47,881 คัน
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการหดตัวของตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่ปรับตัวลดลง 22.8% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้ที่ลดลงถึง 24.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่ทวีความรุนแรง ประกอบกับวิกฤตการทางการเงินในสหรัฐอเมริกาได้ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคและส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม
อย่างไรก็ดี ตลาดรถยนต์นั่ง ยังมีอัตราการเติบโตสูงถึง 19.1% ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดรถยนต์รวมไม่ลดลงไปมาก
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศ 9 เดือนแรก มีปริมาณทั้งสิ้น 461,258 คัน เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดรถยนต์นั่งที่มีมาตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากความนิยมต่อรถยนต์รุ่นใหม่ที่แนะนำเข้าสู่ตลาด อาทิ โคโรลล่าอัลติส, ฮอนด้าแจ๊ส และ ฮอนด้าซิตี้ เป็นปัจจัยสนับสนุนหลักต่อตลาดรถยนต์
ทางด้านตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดของตลาดรถยนต์เมืองไทยได้รับผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันดีเซลที่พุ่งสูงมากในช่วง 7 เดือนแรกของปีตลอดจนปัจจัยภายในประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจโดยรวม จึงมีอัตราการเติบโตลดลง 8.5% รวมถึงตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีอัตราการเติบโตลดลง 10.5% ตามลำดับ
นายวุฒิกร คาดว่า ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคมจะมีปริมาณการขายที่ดีขึ้น จากการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด อาทิ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ใหม่, โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ใหม่, ฮอนด้าซิตี้ ใหม่, มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต และ อีซูซุ ดีแมกซ์ รุ่นปรับปรุงโฉม แต่สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ประกอบกับวิกฤตการทางการเงินจะเป็นปัจจัยลบสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์ได้