นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า จากสถานการณ์ต้นทุนเชื้อเพลิงที่ถูกลงอาจช่วยควบคุมราคาสินค้าผู้บริโภคในเดือนก.ย. ให้เคลื่อนไหวที่ระดับ 0.1% เท่านั้น ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวสามารถบรรเทาความรุนแรงจากพิษภัยของภาวะเงินเฟ้อได้
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ด้วยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมจะปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ขณะที่อัตราว่างงานจะยังคงปรับตัวสูงขึ้น
จากตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดน้อยลงจะทำให้นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดในตลาดสินเชื่อ ขณะที่บริษัทเอกชนบางแห่งปรับลดราคาสินค้าที่จำเป็นเช่นอาหารและเชื้อเพลิงเพื่อดึงดูดใจผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อจำกัด
"การปรับตัวลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นบ่งชี้ให้เห็นถึงทิศทางเงินเฟ้อและเศรษฐกิจที่วิ่งสวนทางกันในปีนี้" ซัล กวาเทียรี นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงแรงงานของสหรัฐมีกำหนดรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ในเวลา 08.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะเดียวกัน เฟดมีกำหนดจะรายงานตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนก.ย.ซึ่งเป็นที่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะปรับตัวลดลง 0.8% หลังจากที่ดิ่งลง 1.1% ในเดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากผลผลิตในภาคโรงงาน และอุตสาหกรรมเหมืองแร่ร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2533
ทั้งนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า ความพยายามของรัฐบาลในการกู้วิกฤตตลาดเงินและสกัดกั้นผลกระทบจากวิกฤตสินเชื่อจะต้องอาศัยเวลา ซึ่งจะไม่ช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นได้ในทันที