โดนัลด์ ซัง ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของฮ่องกงจะมีอยู่เป็นจำนวนมากและเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์การเงิน แต่ก็คาดว่าจะไม่รุนแรงเหมือนกับในช่วงเกิดวิกฤตการณ์การเงินในปีพ.ศ.2540
นายซังกล่าวกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศหลังจากออกแถลงการณ์นโยบายการเงินในวันนี้ว่า "วิกฤตการณ์การเงินที่เกิดขึ้นทั่วโลกกำลังส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรม แต่ฮ่องกงมีประสบการณ์มากพอที่จะรับมือกับเรื่องนี้ได้ ผมยอมรับว่าฮ่องกงกำลังเผชิญกับยอดขาดดุลงบประมาณจำนวนมากในปีนี้ แต่ผมไม่กังวลมากเกินไป เพราะผมเชื่อว่าเมื่อผ่านขวบปีแห่งความยุ่งยากไปได้ ปีใหม่ที่รออยู่ย่อมสดใสกว่าเสมอ"
ทั้งนี้ นายซังคาดว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้จะขยายตัวต่ำกว่าในปีที่แล้ว และคาดว่าตัวเลขจ้างงานจะพุ่งสูงขึ้น แต่ก็จะไม่เลวร้ายเท่าในปีพ.ศ.2542 และ 2543 ส่วนปีที่แล้วนั้น GDP ฮ่องกงขยายตัว 6.4% ขณะที่ยอดเกินดุลบัญชีมีอยู่ถึง 1.156 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายซังกล่าวว่า ฮ่องกงอยู่ในสถานะที่พร้อมจะรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตการเงินทั่วโลกในปัจจุบันได้ เพราะฮ่องกงได้บทเรียนจากในอดีต นอกจากนี้ รากฐานทางเศรษฐกิจของฮ่องกงก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเนื่องจากฮ่องกงรุกเข้าทำธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งคาดว่าอัตราการลงทุนในจีนจะขยายตัวอย่างน้อย 7-8% สำนักข่าวเกียวโดรายงาน